ปีนี้เป็นอีกปีที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับกล้องและเลนส์ทุกประเภท เนื่องจากเราเห็นชุด kit ทั้งสองที่มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลง ดังนั้นเราจึงได้รวบรวมเทรนด์การถ่ายภาพที่ใหญ่ที่สุดที่เราคาดว่าจะได้เห็น รวมถึงเทรนด์ที่เราคาดหวังมาให้ได้ชมกันอีกด้วย
ช่างถ่ายภาพและวิดีโอแบบ hybrid จะได้รับประโยชน์อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากกล้องและเลนส์ mirrorless มีวิวัฒนาการมาจากการออกแบบที่เน้นภาพถ่ายเป็นหลัก แต่หากใครก็ตามที่กำลังมีแผนว่าจะซื้อใหม่ก็อาจจะรู้สึกว่ามันมีราคาที่แพงขึ้น เนื่องจากชุด kit ต่างๆ มีราคาแพงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
และกล้องสมาร์ทโฟนก็จะดีขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยการพัฒนาที่น่าตื่นเต้นที่สุดที่ฮาร์ดแวร์ แทนที่จะเป็นซอฟต์แวร์ เราจะพบกับเซนเซอร์และเลนส์ซูมที่ใหญ่ขึ้น พร้อมความชาญฉลาดในการถ่ายภาพด้วยคอมพิวเตอร์ที่ซับซ้อนมากขึ้นด้วยเช่นกัน
ถึงอย่างนั้นก็มีแรงกระตุ้นที่ทำให้เรารู้สึกสนใจกล้องฟิล์มขึ้นมาจากผู้ใช้งานที่เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะกลุ่มใช้งานในช่วงวัยรุ่นที่หันไปใช้การถ่ายภาพแบบ analog ในขณะที่ Pentax มอบความหวังให้กับเราด้วยการประกาศการพัฒนากล้องฟิล์มรุ่นใหม่ และเราก็ชอบที่จะเห็นกล้องที่เรียบง่ายปรากฏขึ้นในโลกดิจิทัลเช่นกัน ฉะนั้นเรามาดูกันกว่าว่าแต่ละเทรนด์ของกล้องที่เกิดขึ้นใหม่ในปี 2023 มีอะไรบ้าง
1. กล้องและเลนส์จะแพงขึ้น
หลายคนคิดว่ากล้องและเลนส์มีราคาแพงขึ้น และคำตอบของมันคือมีทั้งใช่ และไม่ใช่ เนื่องจากกล้องที่ เหมือนกันสำหรับกล้อง DSLR และกล้อง mirrorless โดยส่วนใหญ่จะมีราคาที่เท่ากันอยู่แล้วเมื่อเปิดตัว และหลังจากนั้นมันก็จะปรับขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อ
แต่เมื่อเทคโนโลยีกล้องของสมาร์ทโฟนพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง สิ่งนี้จะเป็นแรงกดดันต่อตลาดกล้องถ่ายภาพอย่างมาก ฉะนั้นจึงทำให้แบรนด์กล้องใหญ่ต่างๆ ต้องตั้งเป้าหมายที่สูงขึ้นเช่นกัน และเราจะเห็นได้จากผลลัพธ์จากกล้องระดับมืออาชีพมากมายที่ตอนนี้ยังคงให้พื้นที่สำหรับสมาร์ทโฟนอยู่
ซึ่งพูดง่ายๆ ก็คือ กล้องระดับมืออาชีพอย่าง Nikon Z9, Canon EOS R3 และ Sony A1 ทำได้มากกว่านั้น เช่น การบันทึกวิดีโอ 8K, ภาพถ่ายความละเอียดสูง, โหมดถ่ายภาพต่อเนื่องเร็ว, โฟกัสอัตโนมัติที่ซับซ้อน และรายละเอียดที่คมชัดในทุกส่วนของภาพ ฉะนั้นจึงคาดว่าจะมากขึ้นอีกในปีนี้
2. เลนส์ที่ hybrid มากขึ้นสำหรับทั้งการถ่ายภาพและบันทึกวิดีโอ
เลนส์ยังได้รับการพัฒนาอยู่เสมอเพื่อสะท้อนให้เห็นว่ากล้อง mirrorless ที่ดีที่สุดกำลังกลายเป็นรุ่น hybrid ที่มีความชำนาญในการถ่ายภาพและวิดีโอไม่แพ้กัน ซึ่งหมายความว่าความต้องการของผู้ใช้กำลังเปลี่ยนไป โดยเราจะเริ่มเห็นจากเลนส์ซูมมาตรฐาน (เลนส์ kit) กว้างขึ้นที่ปลายด้านหนึ่ง เช่น เลนส์ Sony FE 20-70mm F4 G ที่ประกาศเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2023 และ Panasonic Lumix S 20-60mm F3.5-5.6
เหตุผลที่ทำไมถึงกว้างขึ้น เนื่องจากช่างถ่ายวิดีโอมักต้องการขอบเขตการมองเห็นที่กว้างกว่าช่างภาพ เพื่อพิจารณาสัดส่วนภาพ 16:9 และกิจกรรมต่างๆ เช่น วิดีโอบล็อก ฉะนั้นเลนส์ที่มักใช้ในการถ่ายภาพในอดีตคือ 28มม. หรือหากคุณโชคดี เลนส์มุมกว้างคือ 24 มม. ซึ่งกว้างไม่พอสำหรับผู้สร้างภาพยนตร์หลายๆ คน
3. การถ่ายภาพแบบ analog จะกลับมาอีกครั้ง
กล้อง mirrorless และเลนส์อาจมีความซับซ้อนมากขึ้น แต่ก็มีการเคลื่อนไหวในการถ่ายภาพในทิศทางอื่นเช่นกัน เนื่องจากGen Z กำลังเปิดรับกล้องฟิล์มอย่างเช่น Kodak Ektar 35 ที่กำลังมาแรง และ Pentax ของ Ricoh ประกาศว่าจะผลิตกล้องฟิล์มอีกครั้ง ทำให้เรารู้สึกว่ากล้องฟิล์มจะกลับมาอีกครั้งและกลับมาในระดับที่กว้างขวางมากขึ้น
แน่นอนว่า กล้องฟิล์มจากปีกลายยังคงมีอยู่ในตลาดมือสองและมักจะไม่สร้างมูลค่าให้กับโลก แต่สิ่งที่น่าตื่นเต้นเกี่ยวกับโอกาสของ Pentax คือการสนับสนุนการดูแลหลังการขาย หากมีข้อผิดพลาดทางกลกับกล้องฟิล์มตัวใหม่ของคุณ จำเป็นต้องมีการแก้ไขหรือชิ้นส่วนอะไหล่ โครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมใช้งานเหล่านั้นซึ่งมันสามารถสร้างความแตกต่างได้ทั้งหมด
4. กล้องสมาร์ทโฟนมีการพัฒนาฮาร์ดแวร์ที่ดีกว่า
กล้องสมาร์ทโฟนมีข้อผิดพลาดในระดับฮาร์ดแวร์เมื่อเทียบกับกล้องเฉพาะ เช่น เซนเซอร์ขนาดเล็กและการออกแบบเลนส์ที่จำกัดคุณภาพของภาพที่เห็นได้ชัด
โหมดการคำนวณและ AI ช่วยแก้ปัญหาข้อบกพร่องของกล้องสมาร์ทโฟนได้เป็นอย่างมาก และความก้าวหน้าในด้านเหล่านี้ยังคงสร้างความประหลาดใจไม่น้อย และที่กล่าวว่ามีสัญญาณของความก้าวหน้าในระดับฮาร์ดแวร์ด้วยเช่นกัน ตัวอย่างเช่น พาดหัวข่าวของกล้อง iPhone 14 Pro ของปีที่แล้วเทียบกับ iPhone 13 คือการชนกันของพิกเซลจาก 12MP เป็น 48MP แต่สิ่งที่น่าตื่นเต้นกว่าสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกล้องก็คือตัวเซนเซอร์นั้นใหญ่กว่ามาก
และในปี 2566 เรามีแนวโน้มที่จะเห็นสิ่งเดียวกันนี้มากขึ้นในมือถือระดับ flagship เช่น พิกเซลที่มากขึ้น การรวมพิกเซลและพลังการครอบตัดรูปภาพเพิ่มเติม นอกจากนี้ มีข่าวลือว่ากล้องของ iPhone 15 มีการออกแบบเลนส์ periscope ซึ่งเป็นสิ่งที่เราได้เห็นในกล้องของ Samsung Galaxy ซีรีส์S20 ซึ่งมันทำงานเหมือนเลนส์กระจกที่เป็นเลนส์ optical telephoto แทนที่จะใช้การซูมแบบดิจิตอลที่มีคุณภาพน้อยกว่าในกรณีปกติ โดย Samsung เรียกมันว่า ‘Ultra Space Zoom’ และโหมดนี้สามารถปรับปรุงได้โดยการเพิ่มพิกเซล เช่นเดียวกับใน S23 ที่กำลังจะมาถึง
5. สิ่งหนึ่งที่เราต้องการเห็นคือ กล้องที่เรียบง่ายขึ้น
กล้อง mirrorless และกล้อง DSLR เกือบทั้งหมดผลิตในญี่ปุ่น และส่วนใหญ่มีแนวทางการออกแบบและประสิทธิภาพที่ชัดเจนคือการทำทุกอย่างให้ได้ทั้งหมดเช่น การควบคุมมากมาย เมนูที่อัดแน่น โหมดการถ่ายภาพที่หลากหลายสำหรับภาพถ่ายและวิดีโอในทุกสถานการณ์ และตัวเลือกโฟกัสอัตโนมัติที่ซับซ้อนที่สามารถใช้งานได้ทั่วไป และเป็นแนวทางที่เราคาดหวัง
อย่างไรก็ตาม ฟังก์ชันการทำงานไม่ได้เกี่ยวกับการนำเสนอเพิ่มเติมเสมอไป และ Hasselblad บริษัทสวีเดนแสดงให้เราเห็นอีกวิธีหนึ่ง คือแนวทางการออกแบบของสแกนดิเนเวียที่นำเสนอรูปแบบการใช้งานที่เรียบง่ายได้ดีที่สุด ซึ่งกล้อง Hasselblad X2D 100C ที่เรามีก็เป็นกล้องที่มีการควบคุมเล็กน้อยและมีเมนูหลักแบบหน้าเดียว แต่ไม่ได้รับความนิยมมากนักสำหรับช่างภาพทิวทัศน์ และช่างภาพถ่าย portraits
แน่นอนว่า คุณไม่จำเป็นต้องใช้การควบคุมและโหมดของกล้อง mirrorless อื่นๆ เพียงเพราะมีให้ใช้งาน แต่การดึงเรากลับไปสู่การใช้งานแบบพื้นฐานนั้นก็มีประโยชน์มากเช่นกัน ฉะนั้นถึงเวลาที่จะทำให้มันง่ายขึ้นเนื่องจากเป็นการมุ่งเน้นไปสู่ความคิดสร้างสรรค์และการใช้งานต่างๆ