การเลือกกล้องที่ดีที่สุดสำหรับ YouTube คือการพิจารณาที่สำคัญสำหรับทุกคนที่ต้องการแบ่งปันวิดีโอในแพลตฟอร์มที่ใหญ่ที่สุด ไม่ว่าคุณเพิ่งจะเริ่มต้นหรือต้องการยกระดับช่องที่มีอยู่ของคุณ มันคุ้มค่าอย่างแน่นอนที่ทุกคนจะใช้เวลาในการค้นหาว่ากล้องตัวไหนเหมาะสมและดีที่สุดสำหรับการถ่ายลง YouTube ที่ตรงกับความต้องการของคุณ
ด้านล่างนี้เราได้ทำการทดลองและเลือกกล้องที่ดีที่สุดสำหรับการถ่าย vlogging ในราคาที่หลายระดับและกล้องหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่กล้อง DSLR, mirrorless ไปจนถึงกล้อง compact เราได้เปรียบเทียบข้อดี, ข้อเสียและสเปกหลักๆ ของกล้อง รวมถึงความละเอียดวิดีโอสูงสุดและอัตราเฟรม และคุณสมบัติในการถ่ายทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ
1. Canon PowerShot G7 X Mark III
คุณสมบัติ
ดีที่สุดสำหรับ: ผู้เริ่มต้นถึงระดับกลาง
ความละเอียดวิดีโอ/อัตราเฟรมสูงสุด: 4K UHD/30p
จุด AF: 31
น้ำหนัก: 304g
อายุแบตเตอรี่ (CIPA) : 235 ภาพ
ข้อดี
+ เลนส์ที่รวดเร็วและหลากหลาย
+ หน้าจอสัมผัสแบบพลิกขึ้นที่ยอดเยี่ยม
ข้อเสีย
– 4K จำกัดเวลาที่ 10 นาที
– อายุการใช้งานแบตเตอรี่ปานกลาง
ผู้ใช้ YouTube จำนวนมากให้คะแนน Canon PowerShot G7 X Mark III สูง และเข้าใจได้ไม่ยากว่าทำไม จริงๆ มันอาจจะไม่ใช้กล้องที่ยอดเยี่ยมที่สุดในหมวดหมู่ใดเลย แต่ว่ามันสามารถทำได้ทุกอย่างที่ผู้ใช้ YouTube ต้องการทำ ทั้งหมดอยู่ในกล้องขนาดเล็กนี้ที่คุณสามารถพกพาไปได้ทุกที
กล้องตัวเล็กนี้สามารถถ่ายวิดีโอ 4K UHD/30p และวิดีโอ HD ได้ที่สูงสุด 120fps ให้คุณสร้างเอฟเฟกต์ภาพสโลว์โมชั่น รุ่น Mark III เพิ่มแจ็คไมโครโฟน 3.5 มม. ซึ่งสร้างความแตกต่างในด้านคุณภาพเสียง และเลนส์ 24-100mm f/1.8-2.8 เป็นแบบตายตัวและเปลี่ยนไม่ได้ ข้อดีอีกอย่างสำหรับผู้ใช้ YouTube คือกล้องสามารถสตรีมสดได้ ซึ่งสามารถถ่ายทอดฟุตเทจด้วยเอาต์พุต HDMI ที่สะอาดได้
2. Sony ZV-E10
คุณสมบัติ
ดีที่สุดสำหรับ: ผู้เริ่มต้นถึงระดับกลาง
ความละเอียดวิดีโอ/อัตราเฟรมสูงสุด: 4K UHD/30p
จุด AF: 425
น้ำหนัก: 343g
อายุแบตเตอรี่ (CIPA) : 440 ภาพ
ข้อดี
+ AF วิดีโอที่ยอดเยี่ยม
+ ไมค์ในตัวที่แข็งแรง
ข้อเสีย
– rolling shutter ในโหมด 4K
– เมนู Sony ที่ซับซ้อน
สิ่งที่ vlogger และผู้ใช้ YouTube ตามหาคือกล้อง mirrorless ที่เปลี่ยนเลนส์ได้และมีความยืดหยุ่นมากกว่า ก้าวไปอีกขั้นกับ Sony ZV-E10 กล้อง mirrorless APS-C ที่เพียบพร้อมไปด้วยฟีเจอร์วิดีโอ ด้วย 4K UHD ที่มีรายละเอียดและคุณภาพที่ยอดเยี่ยม ในขณะที่ Full HD สามารถเพิ่มได้ถึง 120p สำหรับฟุตเทจแบบสโลว์โมชั่น และไมโครโฟนในตัวของ ZV-E10 ทำงานได้อย่างน่าเชื่อถือ ต้องขอบคุณในส่วนของช่องรับเสียงที่มีขนาดใหญ่ขึ้นที่ด้านบนซึ่งช่วยให้จับเสียงได้เที่ยงตรงยิ่งขึ้น
3. Panasonic Lumix GH6
คุณสมบัติ
ดีที่สุดสำหรับ: ผู้ใช้ขั้นสูงและมืออาชีพ
ความละเอียดวิดีโอ/อัตราเฟรมสูงสุด: 5.8K/30p
จุด AF: 315
น้ำหนัก: 823g
อายุแบตเตอรี่ (CIPA) : 380 ภาพ
ข้อดี
+ ไม่จำกัดครั้งในการบันทึก
+ วิดีโอที่ปรับแต่งได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ข้อเสีย
– มีขนาดอ้วนและค่อนข้างหนัก
– อายุการใช้งานแบตเตอรี่น่าจะดีกว่านี้
หากคุณเป็นคนที่ชอบปรับแต่งภาพวิดีโอให้สมบูรณ์แบบจนกว่าจะลงได้ กล้อง Panasonic Lumix GH6 นี้เหมาะสำหรับคุณ หัวใจสำคัญของกล้องคือเซนเซอร์ Stack 25MP ใหม่ ซึ่งทำให้ความเร็วในการอ่านข้อมูลเร็วขึ้นมาก และหมายความว่าจะทำให้ผู้ใช้มีตัวเลือกวิดีโอมากขึ้น มันสามารถถ่ายวิดีโอได้ในหลากหลายรูปแบบ และมันสามารถถ่ายวิดีโอสูงสุดได้ที่ 5.7K/ 30fps ในรูปแบบ Apple ProRes และมันยังมีช่องเสียบการ์ด CFexpress Type B ช่วยให้คุณบันทึกในการ์ดหน่วยความจำที่เร็วและดีที่สุดเพื่อใช้ประโยชน์จากรูปแบบคุณภาพสูง ฉะนั้นกล้องนี้เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน
4. Sony ZV-1
คุณสมบัติ
ดีที่สุดสำหรับ: ผู้เริ่มต้น
ความละเอียดวิดีโอ/อัตราเฟรมสูงสุด: 4K
จุด AF: phase detection 315
น้ำหนัก: 249g
อายุแบตเตอรี่ (CIPA) : 75 นาที
ข้อดี
+ หน้าจอแบบปรับหมุนได้
+ ซูมคงที่ 24-70 มม. f/1.8-2.8
+ รวมกระจกบังลม
ข้อเสีย
– ไม่มีช่องมองภาพ
Sony ZV-1 มีคุณสมบัติมากมายที่ทำให้เป็นกล้องที่ยอดเยี่ยมสำหรับ YouTube เซนเซอร์และเลนส์คล้ายกับ Sony RX100 แต่ตัวกล้อง, การควบคุม และหน้าจอด้านหลังล้วนได้รับการปรับแต่งอย่างยอดเยี่ยมทำให้เหมาะกับการถ่าย vlogging
คุณจะได้รับหน้าจอด้านหลังแบบปรับมุมได้สำหรับการถ่ายภาพที่สร้างสรรค์, ฟุตเทจด้านหน้า, กระจกบังลมแบบคลิปสำหรับการบันทึกเสียงที่ชัดเจนกลางแจ้ง และ AF ที่รวดเร็วอย่างยอดเยี่ยม ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ในกล้องขนาดกะทัดรัดที่พกใส่กระเป๋าเสื้อได้ง่าย แม้ตัวกล้องจะไม่ได้ให้ช่องมองภาพ, แฟลช or even a mode dial แต่มีปุ่มบันทึกขนาดใหญ่และไมโครโฟนในตัวขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณต้องการสำหรับการบันทึกเนื้อหา YouTube ในขณะเดินทาง
5. Nikon Z30
คุณสมบัติ
ดีที่สุดสำหรับ: ผู้เริ่มต้น และผู้ใช้งานระดับกลาง
ความละเอียดวิดีโอ/อัตราเฟรมสูงสุด: 4K/30p
จุด AF: 209
น้ำหนัก: 405g
อายุแบตเตอรี่ (CIPA) : 330 ภาพ
ข้อดี
+วิดีโอ 4K ที่ไม่มีการครอบตัด
+การยศาสตร์ที่เน้น Vlogger
ข้อเสีย
– จำกัดการเลือกใช้เลนส์
– ไม่มีช่องเสียบหูฟัง
ตอนนี้ Nikon มีกล้อง APS-C สามตัวในช่วง Z mirrorless และ Z30 นั้นเน้น vlogger แม้มันจะไม่มีช่องมองภาพ มีแต่หน้าจอแบบปรับมุมได้ และสามารถถ่ายวิดีโอ 4K UHD แบบไม่ครอบตัด ด้วยขนาดที่เล็กและกะทัดรัดทำให้มันมีน้ำหนักเบาเพียงพอที่คุณสามารถพกพามันไปได้ด้วยทุกที และเราก็ยังชอบด้ามจับของมันที่ยื่นออกมาและมีความหนาซึ่งทำให้การถ่ายภาพมือเดียวเป็นเรื่องที่สะดวกและง่ายดายมาก
แต่กล้อง Z ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น โดยเฉพาะกล้องที่มีเซนเซอร์ขนาดเล็ก ซึ่งหมายความว่ามันจะมีข้อจำกัดในการเลือกใช้เลนส์ที่เข้ากันได้ซึ่งอาจจะมีไม่มากนัก ถึงกระนั้น นี้คือกล้องที่ออกแบบมาอย่างชาญฉลาดพร้อมประโยชน์มากมาย เช่น ระบบป้องกันภาพสั่นไหวในกล้องสำหรับวิดีโอ และไมโครโฟนในตัวที่ดีพร้อมการลดเสียงรบกวนจากลม ทำให้กล้องตัวนี้ค่อนข้างมีความน่าสนใจมากทีเดียว