
กล้องถูกออกแบบมาเพื่อจับภาพและบันทึกแสง ดังนั้นการถ่ายภาพในที่แสงน้อยจึงเป็นเรื่องยาก แต่ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำไปอีกขั้น เราเห็นกล้องดิจิทัลที่โดดเด่นในไม่กี่ปีที่ผ่านมาในผลลัพธ์ที่น่าทึ่งแม้ในที่แสงน้อย
การเลือกกล้องที่ดีที่สุดสำหรับการถ่ายภาพในที่แสงน้อย: ควรมองหาอะไร?

ขั้นตอนแรกในการได้มาซึ่งกล้องที่ดีที่สุดสำหรับการถ่ายภาพในที่แสงน้อยคือ การมองหาความสามารถในการเพิ่มความไวแสงที่ระบุไว้ใน ISO ยิ่งค่าความไวแสง ISO สูงขึ้นกล้องยิ่งจับภาพได้ดีในฉากมืด อย่างไรก็ตาม IS ที่สูงขึ้นยังทำให้เกิดสัญญาณรบกวนภาพมากขึ้นอีกด้วย ทำให้ภาพหรือวิดีโอบิดเบี้ยว ดังนั้นจึงควรใช้เซนเซอร์ภาพที่ใหญ่กว่าเนื่องจากใช้พื้นที่มากกว่าและสามารถจับแสงได้fuมากขึ้น
การถ่าย RAW file มีความสำคัญเช่นกันเนื่องจากไฟล์รูปภาพและวิดีโอเหล่านี้สามารถแก้ไขภาพได้หลังจากถ่ายแล้ว นั้นหมายถึงว่าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการรับแสงและขจัดสัญญาณรบกวนภาพได้
โฟกัสอัตโนมัติช่วยรักษาความคมชัดของวัตถุเมื่อสิ่งต่างๆ มืดลงระบบโฟกัสอัตโนมัติในกล้อง อาจมีปัญหาได้ นั้นคือเหตุผลที่การดูช่วงค่าแสงต่ำสุด (EV) เป็นสิ่งสำคัญ ยิ่งค่าตัวเลขต่ำที่สุดยิ่งช่วยให้ระบบโฟกัสอัตโนมัติในที่แสงน้อยยิ่งดีขึ้น
1. Nikon Z6 II

คุณสมบัติ
ชนิด : Mirrorless
เซนเซอร์ : Full frame
ความละเอียด : 24.5MP
เลนส์ mount : Nikon Z
ช่วง ISO : 100-51, 200 (ขยายสูงสุดถึง 50-204,800)
ระบบป้องกันภาพสั่นไหว : เซนเซอร์ shift 5 แกน
ข้อดี
+ ระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัว 5 แกน
+ เลนส์ Z-mount หลากหลายรุ่นเหมาะสำหรับแสงน้อย
ข้อเสีย
– ช่วง ISO ไม่ได้กว้างที่สุดในกล้องระดับเดียวกัน
– ไม่แตกต่างจากกล้อง Nikon Z6 มากนัก
กล้อง Z6 II เป็นหนึ่งในกล้องที่มีโฟกัสอัตโนมัติและระบบวัดแสงที่ดีที่สุดและโฟกัสอัตโนมัติสามารถใช้งานได้ในที่มืดลงไปที่ -6EV กล้อง Z6 II สามารถให้ความได้เปรียบจากโฟกัสอัตโนมัติในการตรวจจับดวงตาและสัตว์ได้ ซึ่งเป็นการโฟกัสติดตามไปที่วัตถุโดยอัตโนมัติโดยไม่มีการแก้ไขใดๆ จากช่างภาพ สิ่งนี้ทำให้ง่ายต่อการถ่ายภาพ portrait และถ่ายภาพสัตว์ในร่มหรือภายนอกในช่วงค่ำ
การจัดการ ISO ก็น่าประทับใจโดยมีสัญญาณรบกวนในภาพนิ่งน้อยมาก ต้องขอบคุณการใช้เซนเซอร์ตัวเดียวกันในรุ่นที่ราคาแพงอย่าง Z7 II แต่ความละเอียดลดลง นอกจากนี้กล้อง Z6 II ยังให้ระบบป้องกันภาพสั่นไหว 5 แกนในตัวช่วยให้การรักษาการเสถียรภาพสูงสุด 5 สต็อปอีกด้วย
2. Nikon Z7 II

คุณสมบัติ
ชนิด : Mirrorless
เซนเซอร์ : Full frame
ความละเอียด : 45.8MP
เลนส์ mount : Nikon Z
ช่วง IS : 64-25600 (ขยายสูงสุดถึง 32-102400)
ระบบป้องกันภาพสั่นไหว : เซนเซอร์ shift 5 แกน
ข้อดี
+ การจัดการ IS ที่ยอดเยี่ยม
+ ช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ที่ดีเยี่ยม
ข้อเสีย
– ราคาไม่เหมาะสำหรับมือใหม่
หนึ่งในการปรับปรุงที่โดดเด่นของกล้อง Z7 II คือช่องเสียบการ์ดหน่อยความจำคู่ที่ให้ความอุ่นใจมากขึ้นเมื่อออกไปถ่ายภาพข้างนอก คุณสามารถสลับการบันทึกภาพไม่ว่าจะเป็นการ์ดที่นึ่ง หรือการ์ดที่สอง หรือใช้เป็นตัวสำรอง
สิ่งแตกต่างอย่างชัดเจนของ Z7 II คือความละเอียด 45.7MP ที่ให้ความละเอียดอย่างเหลือเชื่อ คุณจะได้ประโยชน์จากความละเอียดที่พิเศษนี้ถ้าคุณกำลังผลิตงานพิมพ์ขนาดใหญ่ หรือถ่ายภาพในสไตล์ต่างๆ เช่น ถ่ายภาพภูมิทัศน์ หรือสัตว์ป่า
3. Sony a7S III

คุณสมบัติ
ชนิด : Mirrorless
เซนเซอร์ : Full frame
ความละเอียด : 12.1MP
เลนส์ mount : Sony E
ช่วง ISO : 80-102,400 (ขยายสูงสุดถึง 40-409,600)
ระบบป้องกันภาพสั่นไหว : เซนเซอร์ shift 5 แกน
ข้อดี
+ ความละเอียดและประสิทธิภาพของวิดีโอระดับ high-end
+ มีการจัดการ ISO ที่ดีที่สุดในกล้องระดับเดียวกัน
ข้อเสีย
– ความละเอียดภาพนิ่งต่ำกว่าเมื่อเทียบกันกล้องรุ่นอื่น
กล้อง Sony a7S III เป็นกล้อง mirrorless ที่ยอดเยี่ยมและเหมาะสำหรับการถ่ายภาพในที่แสงน้อย จุดมุ่งหมายหลักคือการเอาใจนักถ่ายวิดีโอและผู้สร้างภาพยนตร์ กล้อง mirrorless ขนาดกะทัดรัดที่สามารถบันทึกวิดีโอ 4K ที่ 120fps สำหรับโหมด ultra-slow นอกจากนี้ยังรองรับ workflows ด้วย output RAW HDMI 16-bit ที่บันทึกในกล้องไปพร้อมกัน
มันจับภาพนิ่งที่ 12.1MP ซึ่งต่ำอย่างไม่น่าเชื่อเมื่อเทียบกับกล้อง mirrorless รุ่นล่าสุด แต่กล้องตัวนี้ก็ไม่ได้เคลมว่าเป็นกล้องสำหรับถ่ายภาพนิ่งเช่นกัน อย่างไรก็ตาม มันมีระบบป้องกันภาพสั่นไหม 5 แกนในตัวที่ช่วยให้เฟรมคงที่สูงสุด 5.5 สต็อป สำหรับการถ่ายภายในที่แสงน้อยที่คมชัดยิ่งขึ้นและการบันทึกวิดีโอที่ลื่นขึ้น
4. Fujifilm X-T4

คุณสมบัติ
ชนิด : Mirrorless
เซนเซอร์ : APS-C
ความละเอียด : 26MP
เลนส์ mount : X-mount
ช่วง ISO : 160-12800 (output ขยาย 80-51200)
ระบบป้องกันภาพสั่นไหว : 6 สต็อป
ข้อดี
+ ช่วง IS ที่ยอดเยี่ยม
+ หน้าจอแบบ articulating
ข้อเสีย
– มองการควบคุมยากในที่มืด
– ไม่ต้องชาร์จแบตเตอรี่ แต่ต้องเสียบปลั๊กกล้องทั้งตัว
กล้อง X-T4 เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการถ่ายภาพในที่แสงน้อยและผู้ที่สนใจถ่ายภาพดาราศาสตร์ หน้าจอ vari-angle ทำให้การจัดองค์ประกอบภาพสะดวกสบาย
รูปลักษณ์โดยรวมของกล้องเลียนแบบกล้องฟิล์มคลาสสิก ทำให้มันดูมีสไตล์ แต่แป้นควบคุมบนตัวกล้องนั้นช่วยให้ใช้งานที่มืดได้ง่ายขึ้นหากคุณจำว่าแป้นหมุนใดควบคุมฟังก์ชันใด เซนเซอร์ APS-C 26.1MP สร้างภาพที่มีคุณภาพที่อดเยี่ยม และมีเลนส์ X-mount ให้เลือกมากมายที่เหมาะกับกล้อง X-T4
5. Nikon D850

คุณสมบัติ
ชนิด : DSLR
เซนเซอร์ : Full frame
ความละเอียด : 45.7MP
เลนส์ mount : Nikon F
ช่วง ISO : 64-25,600 (ขยายได้ถึง 32-102,400)
ระบบป้องกันภาพสั่นไหว : ไม่มี
ข้อดี
+ ความละเอียดภาพนิ่งที่ขนาดใหญ่พร้อมตัวเลือกครอบตัดที่ยอดเยี่ยม
+ ช่วง IS ที่โดดเด่นสำหรับกล้อง DSLR
ข้อเสีย
– โฟกัสในที่แสงน้อยได้ไม่ดีเท่ากล้อง mirrorless
กล้อง D850 เป็นกล้องตัวโปรดของช่างภาพมืออาชีพหลายคน เนื่องจากมันถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้งานได้ในหลายสภาพแวดล้อมที่หลากหลายเพราะมันปิดผลึกสภาพอากาศอย่างเต็มที่และทำจากโลหะผสมแมกนีเซียม นั้นหมายความว่ามันทั้งทนทานและน้ำหนักเบา
นอกจากนี้ยังพร้อมสำหรับการถ่ายภาพวิดีโอในสภาวะแสงน้อยด้วยโฟกัสอัตโนมัติที่ -4EV ด้วยเซนเซอร์โฟกัสอัตโนมัติ Multi-CAM 20K พร้อมการตรวจจับ phase TTL และจุดโฟกัส 153 จุดให้เลือก และยังมี hotshoe และการเชื่อมต่อ PC sync บนตัวเครื่องเพื่อเชื่อมโยงพร้อมไฟเปิดปิดกล้องเมื่อในฉากแสงน้อยที่ต้องการแสงเสริมเพิ่มเล็กน้อย