กล้องฟิล์มถือเป็นกล้องที่ดีที่สุด ในช่วงแรกของการเริ่มมีเทคโนโลยี เพราะช่วยให้ช่างภาพสามารถถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ และแน่นอนว่าการตั้งค่ากล้องให้สมดุลและจัดเฟรมภาพในเวลาสั้นๆ นั้นทำได้ยาก และนั้นคือเรื่องจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกล้องฟิล์มซึ่งไม่มีหน้าจอมองภาพ LCD หรือไม่มีหน้าจอที่จะมองภาพถ่ายของคุณได้ ด้วยเหตุนี้การเลือกกล้องสักตัวที่มี layout การควบคุมที่เรียบง่าย และกระบวนการโหลดฟิล์มที่ไม่ยุ่งยากจึงเป็นสิ่งสำคัญ
หากคุณมีความรู้พื้นฐานหรือประสบการณ์การถ่ายภาพฟิล์มอยู่แล้ว และมองหาการเรียนรู้เพิ่มเติม อย่างเช่น รุ่น Nikon FE2 มีคุณสมบัติกึ่งอัตโนมัติ เช่น รูรับแสง, โหมดกำหนดชัตเตอร์ หรือความสามารถในการถ่ายภาพแบบ manual อย่างเต็มที่
วิธีการเลือกกล้องฟิล์มที่ดีที่สุด
สิ่งแรกที่คุณควรมองหาคือกล้องที่มีคุณสมบัติอัตโนมัติหรือกล้องกึ่งอัตโนมัติ เนื่องจากคุณจะไม่สามารถเปิดภาพที่คุณถ่ายแล้วได้เพราะกล้องฟิล์มจะไม่มีหน้าจอมองภาพ ดังนั้นคุณไม่เพียงแต่ต้องเรียนรู้หลักการทำงานของกล้องทั้งหมด เช่นเดียวกับช่างภาพดิจิทัล เช่น การปรับรูรับแสงให้สมดุล, ความเร็วชัตเตอร์, ความไว IS และการใช้อุปกรณ์เสริม เช่น ฟิลเตอร์เลนส์
ดังนั้นคุณควรมองหากล้องฟิล์มที่มีโฟกัสอัตโนมัติพร้อมชุดเลนส์ หรือเลนส์ซูมเพื่อช่วยในการจัดองค์ประกอบภาพ โหมดกึ่งอัตโนมัติอย่างรูรับแสงและ shutter priority ที่มีประโยชน์เนื่องจากไม่จำเป็นต้องปรับทั้งรูรับแสงและความเร็วชัตเตอร์ให้สมดุล ควบคู่กับค่า IS ของฟิล์ม ซึ่งวันนี้เราได้รวมมาให้แล้วกับกล้องฟิล์มที่ยังคงน่าใช้และได้รับความนิยมในปี 2022 นี้เอง
1. Canon AE-1
คุณสมบัติ
ชนิด: SLR
ขนาดฟิล์ม: 35 มม.
ปีที่ผลิต: 1976
ความพร้อมใช้งาน: มือสอง
ช่องมองภาพ: 0.83X
เลนส์: Canon FD mount
ระดับผู้ใช้: มือใหม่
ข้อดี
+ น้ำหนักเบาและพกพาง่าย
+ โครงสร้างอะลูมิเนียมแข็งแรงทนทาน
ข้อเสีย
– วัสดุตัวกล้องค่อนข้างถูก
กล้อง AE-1 เป็นกล้อง microprocessor SLR ตัวแรกของ Canon จึงช่วยลดน้ำหนักได้เมื่อเทียบกับกล้องที่เป็นกลไกเต็มที่ เต็มระบบ เนื่องจากตัวกล้องที่ผสมผสานด้วยอะลูมิเนียมและพลาสติกทำให้ตัวกล้องน้ำหนักเบาลงสะดวกต่อการพกพา
กล้อง AE-1 เป็นกล้องตัวแรกของโลกที่มีคุณสมบัติโหมดกำหนดชัตเตอร์ และคุณสมบัติที่เล็กแต่สิ่งสำคัญนั้นคือการเอื้อต่อช่างภาพมือสมัครเล่นที่ต้องการการควบคุมการถ่ายภาพด้วยตัวเองแบบเต็มที่ แต่กล้อง AE-1 เองก็มีการจำกัดความเร็วชัตเตอร์ที่ 1/1000 วินาที
2. Nikon FE2
คุณสมบัติ
ชนิด: SLR
ขนาดฟิล์ม: 35 มม.
ปีที่ผลิต: 1983
ความพร้อมใช้งาน: มือสอง
ช่องมองภาพ: 0.86X
เลนส์: Nikon F-mount
ระดับผู้ใช้: มือใหม่
ข้อดี
+ ใช้ง่ายได้ทั้งมือสมัครเล่น และกึ่งมือโปร
ข้อเสีย
– ใช้แบตเตอรี่เท่านั้น
– จำกัดเฉพาะการโฟกัสแบบ manual
กล้อง FE2 มีโหมดรูรับแสงแบบกำหนดเองที่ช่วยให้ช่างภาพปรับหมุนรูรับแสงที่ต้องการเพื่อควบคุมระยะชัดลึกที่ตื้น โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความเร็วชัตเตอร์เพื่อให้ได้ค่าแสงที่ดี
กล้องนี้มีโหมดกึ่งอัตโนมัติที่เป็นประโยชน์ ที่สามารถกดชัตเตอร์ความเร็วสูงสุดที่ 1/4000 วินาที ถ้าคุณต้องการถ่ายภาพที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วในความเร็วชัตเตอร์สูงพิเศษนี้เหมาะอย่างยิ่ง
ปรับขนาดได้แม้กระทั่งสำหรับผู้ที่ต้องการถ่ายภาพให้มากขึ้น ด้วยการถ่ายสูงสุดที่ 3.2 fps ด้วยการเพิ่มโหมดการขับเคลื่อนและหน้าจอการโฟกัสแบบเปลี่ยนได้ และ EF2 จะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ให้กับคุณด้วยการปิดมิเตอร์หลังจาก 16 วินาที หากคุณกดปุ่มลั่นชัตเตอร์
3. Olympus Pen-EE
คุณสมบัติ
ชนิด: Point และ shoot
ขนาดฟิล์ม: 35 มม.
ปีที่ผลิต: 1961
ความพร้อมใช้งาน: มือสอง
ช่องมองภาพ: Direct option
เลนส์: คงที่
ระดับผู้ใช้: มือใหม่
ข้อดี
+ การควบคุมที่ไม่ยาก ปุ่มน้อย เหมาะสำหรับมือใหม่
+ ขนาดเล็ก, น้ำหนักเบาและสะดวกต่อการพกพา
ข้อเสีย
– ไม่มีการควบคุมแบบ manual
– โฟกัสคงที่และเลนส์คงที่
กล้องตัวนี้มีหน้าต่าง selenium meter ล้อมรอบเลนส์มาตรฐานที่ 28 มม. f/3.5 เป็นกล้องที่น่าดึงดูด และน่าสนใจที่มาพร้อมการควบคุมกล้องที่ผสานรวมกันอย่างชาญฉลาด แป้นหมุนที่ด้านหน้ากล้องควบคุมรูรับแสงความเร็วชัตเตอร์และ ASA (IS)
ผู้ที่สวมใส่แว่นตาอาจมีปัญหาในการใช้ช่องมองภาพขนาดเล็กจิ๋วนี้ แต่นั่นก็แลกมาด้วยการควบคุมคล่องตัวกับตัวกล้องของ Pen-EE แต่ปุ่มลั่นชัตเตอร์แอบน่าขัดใจอยู่ เพราะมากับเกลียวในสำหรับลั่นชัตเตอร์จากระยะไกล และมีช่องเสียบแฟลชซิงค์ที่ด้านหน้าสำหรับให้แสงจากภายนอกกล้อง กล้องให้ความรู้สึกสบายเมื่อจับถือเนื่องจากน้ำหนักเบา และตัวกล้องขนาดกะทัดรัด
4. Lomography Diana F+
คุณสมบัติ
ชนิด: Toy
ขนาดฟิล์ม: 120 หรือ 35 มม. พร้อมส่วนหลังเพิ่มเติม
ปีที่ผลิต: 2007
ความพร้อมใช้งาน: มือใหม่
ช่องมองภาพ: Direct option
เลนส์: Diana lenses
ระดับผู้ใช้: มือใหม่
ข้อดี
+ ภาพที่ถ่ายออกมาเป็นสไตล์วินเทจ
+ คุ้มค่ากับราคา
ข้อเสีย
– โครงสร้างคุณภาพไม่ดี
– จำกัดการควบคุมด้วยตัวเอง
กล้อง Diana F+ เหมาะกับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ซึ่งคุณสามารถสลับระหว่างรูรับแสงต่างๆ ได้ซึ่งจัดอยู่ในประเภทแสงจ้า, กึ่งเงา และมีเมฆมากที่ f/16, f/11 และ f/8 นั้นหมายถึงว่ารูรับแสงกว้างสุดที่ f/8 จะทำให้ภาพบุคคลและฉากวิวทัศน์ส่วนใหญ่คมชัด
กล้อง Diana F+ เป็นกล้องฟิล์มที่สมบูรณ์แบบสำหรับช่างภาพมือใหม่หรือผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการท่องเที่ยวใช้กล้องทั้งปี อาจเก็บไว้สำหรับกิจกรรมพิเศษเช่น วันเกิด มันอาจไม่ได้ให้ภาพถ่ายที่ดีที่สุดแก่คุณ แต่เมื่อพิจารณาจากราคา, การใช้งานง่าย, ดีไซน์ Retro และความสามารถในการเพิ่มแฟลชได้แล้วถือว่าโอเคเลยทีเดียว
5. Canon Eos 630
คุณสมบัติ
ชนิด: SLR
ขนาดฟิล์ม: 35 มม.
ปีที่ผลิต: 1989
ความพร้อมใช้งาน: มือสอง
ช่องมองภาพ: 0.8X
เลนส์: EF-mount
ระดับผู้ใช้: มือใหม่
ข้อดี
+ เป็นการเลือกเลนส์ EF-mount ที่ดี
+ โฟกัสอัตโนมัติที่รวดเร็ว
ข้อเสีย
– มีเพียง 2.5 fps ในโหลด AI-Servo
– โฟกัสอัตโนมัติบางครั้งก็เชื่อถือไม่ได้ ไม่แม่นยำ
กล้อง EOS 630 เต็มไปด้วยคุณสมบัติอัตโนมัติที่มีการถ่ายรวดเร็วสำหรับช่างภาพมือใหม่และช่างภาพระดับกลาง เช่น ช่างภาพสามารถถ่ายได้สูงสุด 5fps โดยเลี่ยนไปที่โหมด One-shot AF (หรือ 2.5 fps ในโหมด AI Servo AF) และฟังก์ชั่นวัดแสงประเมิน 6 โซนหมายถึงการเปิดรับแสงที่แม่นยำโดยไม่ต้องใช้เครื่องวัดแสงยากต่างหาก
การโฟกัสอัตโนมัติมีความซับซ้อนและใช้ระบบตรวจจับระยะห่าง TTL (ผ่านเลนส์) มีความสามารถในการจับภาพนิ่งด้วยโฟกัสอัตโนมัติที่ IS 100 ซึ่งเหมาะกับการถ่ายภาพในเวลากลางวัน หรือบุคคลภายในอาคารโดยใช้ไฟสตูดิโอ และยังมีตัวตั้งเวลาอิเล็กทรอนิกส์ในตัวพร้อมไฟกะพริบเหมาะสำหรับผู้ที่รักในการเซลฟี่อีกด้วย
เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> ไฮโลไทยได้เงินจริง