กล้องอินสแตนท์ดิจิตอลที่ดีที่สุดเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับการเดินทาง เนื่องจากบางส่วนช่วยให้คุณสามารถพิมพ์ภาพถ่ายจากโทรศัพท์ของคุณ หรือแม้แต่ให้คุณสามารถปรับแก้ไขภาพในแอปก็ได้เช่นกัน
โดยปกติกล้องเหล่านี้จะมีขนาดเล็ก กะทัดรัด และน้ำหนักเบา จึงเหมาะสำหรับใช้ในเทศกาลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในวันหยุด งานแต่งงาน รวมไปถึงปาร์ตี้หรือวันหยุดสุดสัปดาห์ด้วย และที่สำคัญคือคุณสามารถตรวจสอบภาพก่อนที่จะพิมพ์ได้
และกล้องอินสแตนท์มีรูปแบบการใช้งานภาพพิมพ์อยู่ 2 แบบหลักๆ คือ กระดาษความร้อน Zink (หรือที่เรียกว่าหมึกศูนย์) และฟิล์มอินสแตนท์แบบดั้งเดิม ซึ่งทั้งหมดเป็นชนิดที่คุณใช้กับกล้องแบบอนาล็อก
การพิมพ์ด้วย Zink มีข้อดีหลายอย่าง ซึ่งอย่างแรกคือ มันไม่จำเป็นต้องใช้ตลับหมึกราคาแพง ภาพพิมพ์ออกมาจะไม่มีรอยเปื้อน นอกจากนี้มันยังมีความแข็งแรงและทนทานในการกันน้ำมากกว่าอีกด้วย และสิ่งสำคัญอีกอย่างคือ กระดาษ Zink ราคาถูกกว่าด้วย
1. Instax Mini Evo
สเปกเบื้องต้น
ชนิด: กล้องแบบไฮบริดที่ผสมผสานการถ่ายภาพดิจิตอลและอนาล็อกรวมกันได้อย่างยอดเยี่ยม
ขนาดเซนเซอร์: CMOS 1/5 นิ้ว, 2560×1920 พิกเซล
ชนิดฟิล์ม: instax Mini
ขนาดภาพถ่าย: 1.8 x 2.4 นิ้ว
เลนส์: 28 มม. เทียบเท่า 35 มม., f/2.0
แฟลช: ในตัวกล้อง
ช่องมองภาพ: หน้าจอ LCD
ข้อดี
+ เป็นการผสมผสานระหว่างกล้องดิจิทัลและกล้องอนาล็อกได้อย่างดีเยี่ยม
+ ให้การพิมพ์ที่ไม่ผิดพลาด เนื่องจากเราสามารถดูภาพได้ก่อนที่จะสั่งพิมพ์
+ หน้าจอ LCD 3 นิ้ว ที่อนุญาตให้แก้ไขบางส่วนได้
ข้อเสีย
– ต้องใช้การ์ด microSD เพิ่มเติมเพื่อเพิ่มหน่วยความจำภายใน
Instax Mini Evo เป็นกล้องอินสแตนท์ดิจิตอลแบบไฮบริดที่เราชื่นชอบ เนื่องจากมันมีคุณสมบัติเหมือนกับอินสแตนท์มินิที่ให้คุณแก้ไขรูปภาพของคุณก่อนที่จะสั่งพิมพ์ได้และยังสามารถสั่งพิมพ์ภาพในโทรศัพท์ได้อีกด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น Instax Mini Evo ยังมีดีไซน์วินเทจที่สวยงาม และยังได้รับความนิยมอย่างมากด้วยการผสมผสานความสนุกของการถ่ายภาพแบบแอนะล็อกเข้ากับฟิลเตอร์และเอฟเฟ็กต์แบบอินสตาแกรมที่เราคุ้นเคยเป็นอย่างดี
2. Instax Mini LiPlay
สเปกเบื้องต้น
ชนิด: กล้องอินสแตนท์ดิจิตอล + เครื่องพิมพ์ภาพอินสแตนท์
ขนาดเซนเซอร์: 4.9MP
ชนิดฟิล์ม: instax Mini
ขนาดภาพถ่าย: 1.8 x 2.4 นิ้ว
เลนส์: 28 มม., f/2.0
ระยะห่างจำกัดในการถ่าย: 10ซม.
แฟลช: ในตัวกล้อง
ตั้งเวลา: มี
ช่องมองภาพ: หน้าจอ LCD
ข้อดี
+ ผลิตงานพิมพ์ที่ยอดเยี่ยมบนฟิล์มอินสแตนท์
+ สามารถบันทึกและเล่นคลิปเสียงด้วย QR
+ ให้การถ่ายภาพระยะไกล
+ ที่เก็บข้อมูลภายในที่ให้มาถึง 45 ภาพ
ข้อเสีย
– ตัวแอปไม่ได้ให้ความสามารถในการแก้ไขภาพถ่าย
กล้อง LiPlay มีความโดดเด่นที่รูปลักษณ์ตัวกล้องที่มีความเป็นญี่ปุ่นและความน่ารักซึ่งมีประโยชน์ในการพกพาเป็นอย่างมาก โดยมันมีน้ำหนักเพียง 255 กรัม จึงมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา และสามารถใส่ลงในกางเกงยีนหรือแจ็คเก็ตได้อย่างง่ายดาย
แม้มันจะให้เซนเซอร์มาเพียง 4.9MP เท่านั้น แต่ก็ใหญ่พอที่จะพิมพ์ขนาด 1.8 x 2.8 นิ้วที่เหมาะสมได้ นอกจากนี้ยังให้พื้นที่จัดเก็บภาพภายในถึง 45 ภาพหรือหากคุณต้องการพื้นที่ที่เพิ่มขึ้นก็สามารถใส่การ์ด SD ได้เช่นกัน
3. Kodak Smile Classic
สเปกเบื้องต้น
ชนิด: กล้องอินสแตนท์ดิจิตอล + เครื่องพิมพ์ภาพอินสแตนท์
ขนาดเซนเซอร์: 16MP
ชนิดฟิล์ม: Kodak Zink
ขนาดภาพถ่าย: 3.5 x 4.25 นิ้ว
เลนส์: 27 มม., f/2.2
แฟลช: ในตัวกล้อง
ตั้งเวลา: มี
ช่องมองภาพ: ออฟติคัล
ข้อดี
+ งานพิมพ์ Zink ที่ดีที่สุดและใหญ่ที่สุด
+ ให้การถ่ายภาพโพลารอยด์แบบคลาสสิก
+ คุณสมบัติที่ใช้งานได้จริง
ข้อเสีย
– ไม่มีหน้าจอ LCD เพื่อดูภาพถ่าย
– พิมพ์ทุกภาพที่กดถ่าย
Kodak Smile Classic นำเสนอคุณภาพการพิมพ์ Zink ทันทีที่ดีที่สุดและนี้คือการพิมพ์ขนาด full-size ภาพพิมพ์ Zink ทั่วไปมีขนาด 2 x 3 นิ้ว แต่ Smile Classic จะสร้างภาพขนาด 3.5 x 4.25 นิ้วที่มีขนาดใหญ่กว่า
ข้อเสียที่สำคัญของมันมีอย่างเดียว คือการไม่มีหน้าจอดิจิทัล เนื่องจากคุณจะไม่สามารถตรวจสอบภาพถ่ายที่คุณถ่ายได้ แต่อย่างไรก็ตาม มันก็ยังมีช่องสำหรับการ์ด microSD ดังนั้นคุณจึงสามารถตรวจสอบรูปภาพในภายหลังบนอุปกรณ์อื่นได้เช่นกัน
4. Kodak Printomatic
สเปกเบื้องต้น
ชนิด: กล้องอินสแตนท์ดิจิตอล + เครื่องพิมพ์ภาพอินสแตนท์
ขนาดเซนเซอร์: 5MP
ชนิดฟิล์ม: Kodak Zink
ขนาดภาพถ่าย: 2 x 3 นิ้ว
เลนส์: 8 มม., f/2
แฟลช: ในตัวกล้อง
ตั้งเวลา: ไม่มี
ช่องมองภาพ: ออฟติคัล
ข้อดี
+ ราคาไม่แพงและสามารถใช้งานได้ง่าย
+ ให้การออกแบบที่คล่องตัว
ข้อเสีย
– คุณภาพของภาพถ่ายอยู่ในระดับปานกลาง
– เซตคุณสมบัติมีเพียงแบบพื้นฐานเท่านั้น
Kodak Printomatic เป็นหนึ่งในกล้องดิจิทัลที่มีราคาย่อมเยาที่สุดรุ่นหนึ่ง โดยตัวกล้องให้การตั้งค่าขั้นพื้นฐานมาซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความเรียบง่าย ซึ่งให้คุณสมบัติการถ่ายภาพดิจิทัล 5MP ได้พร้อมให้การพิมพ์บน Zink ขนาด 2×3 นิ้ว
การออกแบบของกล้องค่อนข้างเรียบง่ายและดูดี และด้วยสีสันที่สดใสของตัวกล้องทำให้มันดูโดดเด่น ดังนั้นหากคุณต้องการกล้องถ่ายภาพอินสแตนท์ดิจิตอลที่เรียบง่าย และสามารถใช้งานได้ง่ายกล้องตัวนี้จึงเป็นตัวเลือกที่คุณควรพิจารณา
5. Kodak Step Touch
สเปกเบื้องต้น
ชนิด: กล้องอินสแตนท์ดิจิตอล
ขนาดเซนเซอร์: 16MP
ชนิดฟิล์ม: Kodak Zink
ขนาดภาพถ่าย: 2 x 3 นิ้ว
เลนส์: 2.97 มม., f/2.2
แฟลช: มี
ตั้งเวลา: มี
ช่องมองภาพ: ไม่มี
ข้อดี
+ กล้องขนาดกะทัดรัดและน่ารักที่ผสมผสานกับชุดเครื่องพิมพ์
+ งานพิมพ์ Zero Ink ‘Zink’ จะแห้งทันทีเมื่อสัมผัส
+ สามารถตรวจสอบภาพที่ถ่ายได้ก่อนพิมพ์
+ งานพิมพ์เป็นกาวที่ด้านหลังภาพทำให้ใช้เป็นสติกเกอร์ได้
ข้อเสีย
– คุณภาพของภาพถ่ายที่ไม่น่าประทับใจด้วยสีที่ค่อนข้างซีดจาง
– โครงสร้างให้ความรู้สึกเหมือนพลาสติก
– พิมพ์เพียง 40 แผ่นจากการชาร์จหนึ่งครั้งเท่านั้น
หากคุณชอบรูปลักษณ์ของกล้องรุ่นก่อนนี้ที่เรานำเสนอไป แต่ต้องการหน้าจอสัมผัสและแฟลชป๊อปอัพ Kodak Step Touch เป็นตัวเลือกที่ดี แม้มันจะไม่ได้ให้คุณภาพของภาพถ่ายที่ดีที่สุดในรายการที่เราพูดถึงไป แต่มันมีขนาดกะทัดรัดและน่ารักที่มาพร้อมกับหน้าจอสัมผัส LCD เมื่อได้ทดลองใช้งาน คุณจะพบว่ามันให้ความเพลิดเพลินอย่างน่าเชื่อ
ปัญหาสำคัญที่ควรพิจารณาคือ ตัวกล้องที่เป็นพลาสติก และภาพพิมพ์อาจเปื้อนได้ในบางครั้งก็เป็นสิ่งที่น่ากังวลเช่นกัน แต่เราสามารถบอกได้ว่าหากคุณโอเคกับปัญหาเหล่านี้ เมื่อเทียบราคาและคุณสมบัติแล้วจะพบว่ามันคุ้มค่ามากทีเดียว