การที่เราจะมองหากล้องขนาดกะทัดรัดที่มีคุณภาพในปัจจุบันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก เนื่องจากหากคุณต้องการกล้องขนาดกะทัดรัดคุณก็สามารถใช้สมาร์ทโฟนแทนได้ซึ่งมันก็ทำงานได้ยอดเยี่ยมเช่นเดียวกัน ดังนั้นเราจึงต้องมองหากกล้องขนาดกะทัดรัดที่มีความโดดเด่นและคุณสมบัติที่ให้มากกว่าสมาร์ทโฟน ฉะนั้นสิ่งที่ต้องมองหาคือ กล้องที่มีเซนเซอร์รับภาพขนาดใหญ่ จึงจะเหมาะสม
แต่น่าเสียดาย เนื่องจากกล้อง APS-C ขนาดกะทัดรัดเกือบจะเป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างประสิทธิภาพและการใช้งานจริง มีเพียงกล้อง full frame ขนาดกะทัดรัดเท่านั้นที่สามารถสร้างคุณภาพของภาพที่ดีกว่ากล้องขนาดพกพา แต่อย่างไรก็ตามก็ยังต้องมีหลายส่วนประกอบการตัดสินใจในการซื้อเช่นกัน ดังนั้นเราจึงต้องการนำเสนอข้อดี ข้อเสียของกล้อง รวมไปถึงสเปกของกล้องที่น่าสนใจเหล่านี้เพื่อช่วยในการตัดสินใจของคุณดังนี้
1. Fujifilm X100V
คุณสมบัติเบื้องต้น
ประเภท: Compact
เซนเซอร์: APS-C
ความละเอียด: 26.1MP
เลนส์: 23 มม. f/2
LCD: หน้าจอสัมผัสแบบ vari-angle ขนาด 3 นิ้ว 1.04 ล้านจุด
ช่องมองภาพ: EVF
ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุด: 11fps
ความละเอียดวิดีโอสูงสุด: 4K
ระดับผู้ใช้: ผู้ที่สนใจ / ผู้เชี่ยวชาญ
ข้อดี
+ ขนาดเพรียวบางและพกพาง่าย
+ เซนเซอร์ APS-C 26.1MP
+ หน้าจอสัมผัสแบบปรับหมุนตัวใหม่
ข้อเสีย
– เลนส์ wide-angle คงที่
– ไม่มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ optical
– ราคาค่อนข้างสูง
X100V เป็นกล้องรุ่นที่ห้าของกล้องคอมแพคเลนส์คงที่ APS-C อันเป็นที่รักของ Fujfilm โดยใช้การประมวลผล X-Trans 26.1MP ล่าสุดของ Fujifilm และมีเลนส์ที่เหนือกว่า X100F รุ่นก่อนหน้า ที่มาพร้อมกับหน้าจอสัมผัสที่ปรับเอียงได้ตัวใหม่ และยังมีการปรับปรุงของตัวกล้องด้วยเช่นกันซึ่งมีแนวทางการออกแบบมาจากผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพโดยตรง นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการโฟกัสอัตโนมัติและวิดีโอ 4K ที่ได้รับการปรับปรุงทำให้การออกแบบกล้องคลาสสิกนี้ทันสมัยยิ่งขึ้น
2. Canon PowerShot G1 X Mark III
คุณสมบัติเบื้องต้น
ประเภท: Compact
เซนเซอร์: APS-C
ความละเอียด: 24.2MP
เลนส์: 24-72 มม. f/2.8-5.6 (เทียบเท่า)
LCD: หน้าจอสัมผัสแบบ vari-angle ขนาด 3 นิ้ว 1.04 ล้านจุด
ช่องมองภาพ: EVF
ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุด: 7fps
ความละเอียดวิดีโอสูงสุด: Full HD
ระดับผู้ใช้: ผู้ที่สนใจ / ผู้เชี่ยวชาญ
ข้อดี
+ ขนาดกะทัดรัดสำหรับเซนเซอร์ขนาดที่ให้มา
+ คุณภาพของภาพถ่ายที่ยอดเยี่ยม
+ ช่วงซูม 3x ที่เหมาะสม
ข้อเสีย
– วิดีโอสามารถบันทึกได้เพียง 1080p เท่านั้น
– คุณภาพาอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ 200 ภาพซึ่งค่อนข้างไม่น่าประทับใจ
– รูรับแสงของเลนส์ที่ปรับได้และระยะโฟกัสต่ำสุด
กล้อง G1 X Mark III มาพร้อมกับเซนเซอร์ APS-C 24.2MP แต่ไม่เหมือนกับกล้อง Fuji และ Ricoh APS-C ซึ่งทางยาวโฟกัสคงที่ในรายการนี้เป็นคอมแพคระดับแนวหน้าของ Canon ที่มีความโดดเด่นด้วยเลนส์ซูมเทียบเท่า 3x 24-72 มม. ซึ่งมีรูรับแสงกว้างสุดที่ f/2.8 ที่น่าประทับใจ แต่โดยรวมแล้วเลนส์มีขนาดกะทัดรัดอย่างน่าทึ่ง โดยมีส่วนของเลนส์ที่ยื่นออกมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
3. Ricoh GR III
คุณสมบัติเบื้องต้น
เซนเซอร์: APS-C
ความละเอียด: 24.2MP
เลนส์: 28 มม. f/2.8 (เทียบเท่า)
LCD: หน้าคงที่ (ไม่สามารถปรับเอียงได้) ขนาด 3 นิ้ว 1.037 ล้านจุด
ช่องมองภาพ: Optical
ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุด: N/A
ความละเอียดวิดีโอสูงสุด: 1080p
ระดับผู้ใช้: ผู้ที่สนใจ / ผู้เชี่ยวชาญ
ข้อดี
+ ขนาดเล็ก
+ เซนเซอร์ APS-C 24MP
ข้อเสีย
– วิดีโอเพียง 1080p ไม่ใช่ 4K
– ช่องมองภาพแบบ optical
แม้กล้อง Ricoh GR III จะมีเซนเซอร์ APS-C ที่ค่อนข้างใหญ่ แต่มีขนาดกะทัดรัดอย่างน่าประทับใจด้วยขนาดเพียง 109.4 x 61.9 x 33.2 มม. และยังเบาอย่างน่าทึ่งด้วยน้ำหนักเพียง 257 ก. โดยตัวกล้องมี grip ด้านหน้าที่แกะสลักทำให้รู้สึกปลอดภัยในมือ และมีปุ่มที่แผงด้านหลังครบครันที่มาพร้อมกับล้อควบคุมด้านหน้าและด้านหลังแบบ multi-function แต่ก็น่าเสียดายที่มันไม่มีช่องมองภาพแบบ optical หรือแฟลชในตัว และแม้ว่าตัวกล้องจะเป็นพลาสติกทั้งหมดที่ให้ความแข็งแรง ทนทาน และสวยงาม แต่ก็ขาดความรู้สึกระดับพรีเมียมไป
4. Ricoh GR IIIx
คุณสมบัติเบื้องต้น
เซนเซอร์: APS-C
ความละเอียด: 24.2MP
เลนส์: 40 มม. f/2.8 (เทียบเท่า)
LCD: หน้าคงที่ (ไม่สามารถปรับเอียงได้) ขนาด 3 นิ้ว 1.037 ล้านจุด
ช่องมองภาพ: Optical
ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุด: N/A
ความละเอียดวิดีโอสูงสุด: 1080p
ระดับผู้ใช้: ผู้ที่สนใจ / ผู้เชี่ยวชาญ
ข้อดี
+ เซนเซอร์ 24MP
+ เวลาการตอบสนองที่ได้รับการปรับปรุงแล้ว
+ เลนส์เทียบเท่า 40มม.
ข้อเสีย
– วิดีโอเพียง 1080p ไม่ใช่ 4K
– หน้าจอ LCD เป็นแบบคงที่ (ไม่สามารถปรับได้)
กล้อง GR IIIx รุ่นล่าสุดนี้มีการออกแบบเหมือนกับ GR III ที่เป็นรุ่นดั้งเดิม แต่เปลี่ยนเลนส์เทียบเท่ามุมกว้าง 28 มม. ของกล้องเพื่อให้ได้มุมรับภาพ 40 มม. ที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น เนื่องจากกล้องมาพร้อมกับเลนส์ 26.1 มม. f/2.8 GR ตัวใหม่ที่ประกอบด้วย aspherical 2 ชิ้นและฟิลเตอร์ ND แบบ 2 สต็อป ซึ่งสามารถใช้งานได้ในสภาพแสงจ้ามาก แต่มันก็มีข้อจำกัดที่เหมือนกับรุ่นก่อนหน้าเช่น ไม่มีช่องมองภาพ แต่ก็สามารถเข้าใจได้ว่าต้องการออกแบบให้กล้องมีขนาดกะทัดรัดจึงต้องตัดส่วนนี้ออกไป และกล้องยังมีการจำกัดเฉพาะการถ่ายวิดีโอโหมดภาพยนตร์ Full HD เท่านั้น แต่อย่างไรกล้องนี้ก็ยังคงเหมาะสมกับการถ่ายภาพสตรีทสุดฮิปอยู่ดี