กล้อง full frame ที่มีคุณสมบัติพิเศษไม่จำเป็นว่าต้องราคาแพงเสมอไป โดยกล้องบางตัวในรายการที่เรานำเสนอนี้เป็นรุ่นที่ดีที่สุดที่คุณสามารถซื้อได้เมื่อเปิดตัว แต่เมื่อเวลาผ่านไปราคามันก็ลดลงด้วยเช่นกัน
กล้อง full frame มีเซนเซอร์ขนาดเดียวกับที่พบเห็นได้ในกล้องสะท้อนแสงเลนส์เดี่ยว 35 มม. แบบดั้งเดิม โดยขนาดของเซนเซอร์กล้อง full frame อยู่ที่ประมาณ 6 x 24 มม. และมักจะเป็นตัวเลือกสำหรับช่างภาพมือสมัครเล่นทั่วไปหรือช่างภาพมืออาชีพที่มองหากล้องที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมในสภาวะแสงน้อย เนื่องจากเซนเซอร์มีขนาดใหญ่เป็นสองเท่าของเซนเซอร์ APS-C จึงทำให้สามารถตรวจจับแสงได้มากกว่าในพื้นที่ผิวที่ใหญ่กว่า แต่ข้อเสียของกล้อง full frame ที่เห็นได้ชัดเจนคือขนาดมักจะใหญ่กว่าและราคาสูงกว่า
และแม้ว่าเซนเซอร์ full frame ส่วนใหญ่จะเป็นกล้อง mirrorless แต่คุณก็ยังสามารถซื้อ DSLR full frame ในราคาที่ถูกได้เช่นกัน ฉะนั้นในบทความนี้เราจึงได้รวบรวมเซนเซอร์แบบ full frame ตั้งแต่รูปแบบของกล้อง mirrorless ไปจนถึง DSLR ทั้งรุ่นใหม่ที่มีราคาย่อมเยาและกล้องรุ่นที่เก่ากว่าแต่ให้คุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมในราคาที่ถูกลงไว้ที่นี่แล้วดังนี้
1. Panasonic Lumix S5
ชนิด: Mirrorless
เซนเซอร์: Full frame
ความละเอียด: 24.2MP
หน้าจอ: แบบ vari-angle ขนาด 3 นิ้ว, 1,840k dots
ช่องมองภาพ: อิเล็กทรอนิกส์, 2,360k dots
เลนส์: L-mount
ความไวการถ่ายภาพต่อเนื่อง: 7fps
วิดีโอ: 4K UHD สูงสุดที่ 60/50p
ระดับผู้ใช้งาน: ระดับกลาง / ผู้เชี่ยวชาญ
ข้อดี
+ ให้วิดีโอที่มีประสิทธิภาพยอดเยี่ยมที่สุดในกล้องระดับเดียวกัน
+ กรอบ Magnesium และหน้าจอ vari-angle
+ ช่องคู่สำหรับการ์ด SD
ข้อเสีย
– พอร์ต HDMI ไม่ใช่แบบ full-size
– มีเพียง contrast AF เท่านั้น
แม้ตัวกล้องจะมีขนาดกะทัดรัด แต่ Lumix S5 ก็ให้เซนเซอร์ CMOS 24MP ที่น่าประทับใจซึ่งอยู่ใน Lumix S1 แต่มี AF ที่ได้รับการปรับปรุง นอกจากนี้ตัวกล้องยังให้ความแข็งแรงที่ทนทานต่อสภาพอากาศและมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวระดับถึง 6.5 สต็อปด้วยเลนส์ที่เข้ากันได้ คุณสมบัติที่โดดเด่น ได้แก่ ช่วงไดนามิกชั้นนำและการบันทึกวิดีโอ 4K รวมถึงการจับภาพ RAW + JPEG ความละเอียดสูง 96MP
2. Sony A7 II
ชนิด: Mirrorless
เซนเซอร์: Full frame
ความละเอียด: 24.3MP
หน้าจอ: แบบ tilting ขนาด 3 นิ้ว, 1,228,800 dots
ช่องมองภาพ: อิเล็กทรอนิกส์
เลนส์: Sony E
ความไวการถ่ายภาพต่อเนื่อง: 5fps
วิดีโอ: 1080p
ระดับผู้ใช้งาน: ผู้ที่สนใจ / ผู้เชี่ยวชาญ
ข้อดี
+ ให้ระบบป้องกันภาพสั่นไหว 5 แกนในตัว
+ ให้การจัดการที่ดี
ข้อเสีย
– ไม่มีวิดีโอ 4K
Sony A7 II เป็นกล้องตัวแรกในกลุ่มกล้อง Sony Alpha mirrorless ที่มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบเซนเซอร์ และมันยังมาพร้อมกับตัวประมวลผลที่ได้รับการปรับปรุงแล้วซึ่งหมายความว่ามันให้ความเร็วที่มากขึ้นเช่นกัน และยังมีมีระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบตรวจจับระยะห่าง 117 จุด และ AF ตรวจจับคอนทราสต์ 25 จุด ทำให้มั่นใจได้ว่าไม่วัตถุจะอยู่ที่ใดในเฟรมมันก็จะชัดเจนอย่างแน่นอน นอกจากนี้มันยังมีตัวเลือกเลนส์ให้เลือกมากมายทั้ง Sony ของมันเองและรวมไปถึง Sigma หรือ Tamron ก็ได้เช่นกัน
3. Canon EOS RP
ชนิด: Mirrorless
เซนเซอร์: Full frame
ความละเอียด: 26.2MP
หน้าจอ: แบบ fully articulating ขนาด 3 นิ้ว, 1.04m dots
ช่องมองภาพ: อิเล็กทรอนิกส์
เลนส์: Canon RF
ความไวการถ่ายภาพต่อเนื่อง: 5fps (1 ภาพ) , 4fps (Servo AF)
วิดีโอ: 4K
ระดับผู้ใช้งาน: ผู้ที่สนใจ
ข้อดี
+ ขนาดกะทัดรัด
+ มาพร้อมตัวแปลงเลนส์ DSLR
ข้อเสีย
– เลนส์มีขนาดใหญ่อาจทำให้มันไม่ใช่กล้องที่มีขนาดกะทัดรัด
กล้อง Canon EOS RP ได้รับการออกแบบมาให้มีราคาถูกและราคาถูกลงอีก นี่จึงเป็นกล้อง full frame ที่ถูกที่สุดของ Canon เพื่อให้การอัปเกรดง่ายขึ้น ตัวกล้อง EOS RP จึงจำหน่ายพร้อมตัวแปลงที่ให้คุณใช้เลนส์เมาท์ Canon EOS D-SLR EF ที่มีอยู่ได้
นอกจากนี้มันยังมีคุณสมบัติที่คุ้มค่าของมันทำให้เราอาจนึกถึง กล้อง Canon EOS 6D Mark II แบบ mirrorless แต่ด้วยความได้เปรียบของช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์และการถ่ายวิดีโอ 4K จึงทำให้กล้องนี้ให้ความคุ้มค่าที่มากกว่า และด้วยน้ำหนักที่เบา น่าใช้ และมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยจึงทำให้มันเป็นตัวเลือกในการซื้อที่ยอดเยี่ยมอย่างมากในราคาปัจจุบัน
4. Canon EOS 6D Mark II
ชนิด: DSLR
เซนเซอร์: Full frame
ความละเอียด: 26.2MP
หน้าจอ: แบบ vari-angle ขนาด 3 นิ้ว, 1,040,000 dots
ช่องมองภาพ: อิเล็กทรอนิกส์
เลนส์: Canon EF
ความไวการถ่ายภาพต่อเนื่อง: 6.5fps
วิดีโอ: 1080p
ระดับผู้ใช้งาน: ผู้ที่สนใจ / ผู้เชี่ยวชาญ
ข้อดี
+ ระบบ AF ที่ฉลาดและรวดเร็ว
+ หน้าจอสัมผัสแบบ vari-angle
ข้อเสีย
– ไม่มีวิดีโอ 4K
– ช่วงไดนามิกไม่น่าประทับใจเท่าที่ควร
กล้อง Canon EOS 6D Mark II เป็นการอัปเกรดจากกล้อง Canon EOS 6D ด้วยการเพิ่มความละเอียด จาก 20.2MP เป็น26.2MP มาพร้อมระบบประมวลผล DIGIC 7 ล่าสุดของ Canon, ไวต่อการสัมผัส, จอแสดงผลแบบ vari-angle และระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบดิจิตอล 5 แกนสำหรับการบันทึกวิดีโอในการใช้มือถือกล้อง (ซึ่งสูงสุดที่ 1080p โดยไม่มีตัวเลือก 4K)
และด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ทำให้มันเป็นกล้องที่ยอดเยี่ยมในการถ่ายภาพ ซึ่งเป็นการผสมผสานคุณสมบัติ ความยืดหยุ่น และความคุ้มค่าไว้ในกล้อง EOS 6D Mark II
5. Pentax K-1 Mark II
ชนิด: DSLR
เซนเซอร์: Full frame
ความละเอียด: 36MP
หน้าจอ: แบบปรับหมุนได้ 3 ทิศขนาด 3 นิ้ว, 1,037k dots
ช่องมองภาพ: Pentaprism
เลนส์: Pentax K
ความไวการถ่ายภาพต่อเนื่อง: 4.4/6.4fps
วิดีโอ: 1080p (Full HD)
ระดับผู้ใช้งาน: ผู้ที่สนใจ / ผู้เชี่ยวชาญ
ข้อดี
+ โครงสร้างที่แข็งแรงทนทาน
+ ระบบป้องกันภาพสั่นไหว 5 แกน
ข้อเสีย
– อายุการใช้งานแบตเตอรี่ค่อนข้างต่ำที่ 670 ภาพ
– ไม่มีวิดีโอ 4K
กล้อง Pentax K-1 Mark II เป็นหนึ่งในกล้องที่มีความแข็งแรงและทนทานอย่างมาก เนื่องจากโครงสร้างมันเคลือบด้วยซีลป้องกันสภาพอากาศ และระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบเซนเซอร์ shift ที่มีประสิทธิภาพสูงซึ่งสามารถทำงานกับเลนส์ที่ติดตั้งได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบป้องกันภาพสั่นไหว 5 แกน และด้วยเซนเซอร์ภาพแบบ full frame 36MP ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้รับภาพที่คมชัดอย่างแน่นอน ดังนั้นสำหรับแฟน ๆDSLR ที่ต้องการกล้องแบบดั้งเดิมที่มีขนาดใหญ่, มั่นคง และคุณภาพระดับพรีเมียม กล้องตัวนี้จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างมาก