กล้องไฮบริดเป็นกล้องที่เหมาะกับ content creators ที่ต้องใช้ทั้งการถ่ายภาพและวิดีโอนั่นเองออกแบบมาเพื่อการถ่ายได้อย่างคมชัดและถ่ายวิดีโอในรูปแบบของไดนามิคได้ดีพอๆ กัน และตัวกล้องยังถูกออกแบบมาให้มีความยืดหยุ่นสามารถเปลี่ยนจากโหมดหนึ่งไปอีกโหมดหนึ่งได้ทันที
การเลือกใช้กล้อง hybrid ควรจะเลือกใช้รุ่นที่มาพร้อมกับความละเอียดวิดีโอและมีอัตราเฟรมเรทที่เหมาะสม ความละเอียดภาพแบบ 4K มีไมค์ในตัวและจอLCDที่สามารถปรับมุมได้แต่ยังไงกล้อง hybrid ที่ดีควรจะมีอัตราการถ่ายภาพที่เหมาะสมและระบบออโต้โฟกัสที่จะช่วยให้ถ่ายวัตถุที่เคลื่อนไหวอยู่ได้และมีความละเอียดที่เพียงพอสำหรับการปรินซ์ภาพที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังต้องมีคุณสมบัติที่สำคัญอย่างเช่น ช่องเสียบการ์ดและเลือกใช้เลนส์ได้หลากหลาย โดยเราได้ทำการรวบรวมมาไว้ดังนี้
1. Panasonic Lumix S5II
ประเภทกล้อง : Mirrorless
ระบบเซนเซอร์ : เซนเซอร์ CMOS ที่ไม่มี LPF
เมาท์เลนส์ : เลนส์ Leica
จอภาพ : หน้าจอสัมผัสแบบ tilting ขนาด 3 นิ้ว
ช่องถ่ายภาพ : EVF ขนาด 3.68มม.
ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุด : 30fps (Electronic Shutter)
ความละเอียดของวิดีโอสูงสุด : 6K (การอ่านค่าแบบเต็มเซนเซอร์ 29.97/25/24/23.98p)
ระดับผู้ใช้งาน : มือสมัครเล่นไปจนถึงมืออาชีพ
ข้อดี
+ มีฟังก์ชั่นที่เหมาะกับการบันทึกวิดีโอในแบบมืออาชีพ
+ ไม่จำกัดเวลาในการบันทึกวิดีโอ
ข้อเสีย
+ ไม่มีช่องเสียบการ์ดCFexpress
+ ไม่มีไฟนับบอกเวลา
กล้อง Panasonic Lumix S5II ออกแบบมากะทัดรัดและแข็งแรงเหมือนกับรุ่น Lumix S5 มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ 5-axis และมี color science ที่ยอดเยี่ยม และสิ่งที่เพิ่มเข้ามาใหม่ก็คือระบบออโต้โฟกัสแบบ เฟสไฮบริดที่รวมกับ PDAF กับ Contrast Detect AF เพื่อให้ตรวจจับและติดตามวัตถุได้ดีขึ้น โดยเฉพาะในสถานที่ที่มีแสงน้อยหรือย้อนแสง จึงทำให้มันเป็นกล้องที่เหมาะสำหรับ content creators
2. Panasonic Lumix GH5 II
ประเภทกล้อง : Mirrorless
ระบบเซนเซอร์ : Micro Four Thirds
ความละเอียด : 20.3MP
เมาท์เลนส์ : Micro Four Thirds
จอภาพ : จอขนาด3นิ้วแบบทัชสกรีน และปรับมุมได้ ขนาด 1.84มม.
ช่องเล็งภาพ : ขนาด 3.68 มิลลิเมตร กำลังขยาย 0.76 เท่า
ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุด : 12fps
ความละเอียดของวิดีโอสูงสุด : C4K/4K UHD
อัตราเฟรมเรทของวิดีโอ : สูงถึง 30p (C4K) ; สูงถึง 60p (UHD 4Kหรือต่ำกว่า)
ช่องเสียบการ์ด : 2 ช่อง (SD UHS-II)
น้ำหนัก : 727 กรัม
ข้อดี
+ 6.5 สต็อป
+ V-Log L profile
ข้อเสีย
+ จอมีขนาดเล็กกว่า 3 นิ้ว
กล้อง Panasonic Lumix GH5 II เป็นกล้อง mirrorless มี shoes ขนาดใหญ่เพื่อไว้รองรับ GH5 ตัวดั้งเดิม แต่มันก็พิสูจน์แล้วว่ามันเป็นกล้อง hybrid ที่ยอดเยี่ยมมาก ด้วยเซนเซอร์ Micro Four Thirds ความละเอียด 20.3MP และความสามารถในการถ่ายภาพสูงสุด 4K 60p 4.2.0 10 บิต แบบไม่ครอบตัด แล้วยังให้ความสามารถรอบด้านที่จำเป็นสำหรับผู้ใช้งานแบบ hybrid ได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ในขนาดที่กะทัดรัดและเป็นมิตรกับการเดินทาง
3. Nikon Z6II
ประเภทกล้อง : Mirrorless
ระบบเซนเซอร์ : Full frame
ความละเอียด : 24.5MP
เมาท์เลนส์ : Nikon Z
จอภาพ : หน้าจอสัมผัส ขนาด 3.2 นิ้ว แบบเอียงได้ ขนาด 2.1 มม.
ช่องมองภาพ : OLED ขนาด 3.69 มม.
ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุด : 14fps
ความละเอียดของวิดีโอสูงสุด : 4K UHD
อัตราเฟรมเรทของวิดีโอ : สูงถึง 30p (4K) , สูงถึง 120p (FULL HD)
ช่องเสียบการ์ด : 2 ช่อง (CFExpress/XQD + SD UHS-II)
น้ำหนัก : 705 กรัม
ข้อดี
+ Hot Charging TYPE C
+ ออโต้โฟกัสดีมาก
ข้อเสีย
+ จอไม่สามารถหันไปด้านหน้าได้
Nikon Z6II มีการปรับปรุงในจุดเเข็งที่ดีอยู่เเล้ว อย่างเช่นความเร็วในการถ่ายภาพให้ดีขึ้นไปอีกในทุกโหมดทำให้สามารถถ่ายภาพได้สูงสุด 14fpsและถ่ายวิดีโอ 4K60p ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีระบบการชาร์จแบบรวดเร็วโดยผ่าน USB-C ซึ่งสิ่งนี้หมายความว่าคุณสามารถชาร์จแบตเตอรี่ในขณะที่ใช้งานมันอยู่ได้
และจะเห็นได้ชัดว่ากล้องตัวนี้สร้างขึ้นมาเพื่อมุ่งเน้นไปที่ช่างถ่ายภาพยนตร์ เนื่องจากมีการเปิดตัวอุปกรณ์เสริมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น อะแดปเตอร์ FTZ Mount หรือ จอมอนิเตอร์/เครื่องบันทึก Atomos Ninja V
4. Sony A7 III
ประเภทกล้อง : Mirrorless
ระบบเซนเซอร์ : Full frame
ความละเอียด : 24.2MP
เมาท์เลนส์ : Sony FE
จอภาพ : จอสัมผัสขนาด 3 นิ้ว แบบ tilting , 921,600 dots
ช่องเล็งภาพ : XGA OLED type, 2,359,296
ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุด : 10fps
ความละเอียดของวิดีโอสูงสุด : 4K UHD
อัตราเฟรมเรทของวิดีโอ : สูงถึง 30p (4K) ; สูงถึง 120p (FULL HD)
ช่องเสียบการ์ด : 2 (UHS-I + UHS-II)
น้ำหนัก : 650 กรัม โดยรวมทั้งตัวกล้องและแบตเตอรี่
ข้อดี
+ ถ่าย 4K แบบไม่ครอป
+ ถ่ายได้ต่อเนื่อง 10 fps ที่น่าประทับใจ
ข้อเสีย
+ ไม่สมดุลกับเลนส์ขนาดใหญ่
กล้อง Sony A7III เป็นกล้องที่แม้จะเปิดตัวมานานแล้วแต่ก็ยังเป็นที่กล่าวขานถึงอยู่เสมอ เนื่องจากความสามารถของมันและราคาที่เหมาะสมของมันทำให้มันอยู่ในตัวเลือกของเราเสมอ และเมื่อเวลายิ่งผ่านไปราคามันยิ่งถูกลงซึ่งยิ่งคุ้มค่ามากขึ้นด้วยเช่นกัน
ระบบโฟกัสที่ยอดเยี่ยมคือความโดดเด่นของกล้องนี้ โดยมี จุด AF ตรวจจับระยะห่าง 693 จุดครอบคลุม 93% ของเฟรม และจุด AF ตรวจจับคอนทราสต์ 425 จุด ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในกล้องที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมาเมื่อเปิดตัวกล้อง และยังคงสร้างความประทับใจอยู่ในขณะนี้
5. Sony A1
ประเภทกล้อง : Mirrorless
ระบบเซนเซอร์ : Full frame
ความละเอียด : 50.1MP
เมาท์เลนส์ : Sony E
จอภาพ : หน้าจอสัมผัสแบบ tilting ขนาด 3 นิ้ว , 1.44m dots
ช่องเล็งภาพ : EVF ขนาด 9.4 มิลลิเมตร กำลังขยาย 0.9 เท่า
ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุด : 10fps, 30fps
ความละเอียดของวิดีโอสูงสุด : 8K
อัตราเฟรมเรทของวิดีโอ : สูงถึง 30p (8K) , สูงถึง 120p (4K)
ช่องเสียบการ์ด : 2 ช่อง (CFExpress Type A)
น้ำหนัก : 737 กรัม กรัม โดยรวมทั้งตัวกล้องและแบตเตอรี่
ข้อดี
+ กล้องมีความละเอียดสูง
+ EVF ที่ยอดเยี่ยม
ข้อเสีย
+ มีราคาที่ค่อนข้างแพง
+ ไม่คุ้มค่าหากไม่จำเป็น
Sony A1 เป็นกล้อง hybrid ชั้นนำสำหรับเหล่ามืออาชีพแถวหน้าที่ต้องการสิ่งที่ดีที่สุดโดยไม่คำนึงถึงราคา ความสามารถในการบันทึกวิดีโอก็มีหลายประการ เช่น มันสามารถถ่ายวิดีโอที่ 8K สูงสุดที่ 30p หรือ 4K ที่ 120p ที่น่าประทับใจอย่างมาก ในขณะเดียวกันมันก็สามารถถ่ายภาพนิ่งได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยเซนเซอร์ 51.4MP โดยมีความสามารถในการถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุดที่ 30fps และความจุ buffer ขนาดใหญ่ในการ boot ซึ่งทั้งหมดนี้รวมอยู่ในกล้องที่มีการจัดการที่ยอดเยี่ยม รวมถึงมันยังเป็นหนึ่งในกล้องที่มีช่องมองภาพแบบ electronic ที่ดีที่สุดที่กล้อง mirrorless เคยมีมาเช่นกัน