
นี้คือสเปคที่หลายคนรอคอยมาอย่างยาวนาน และนี้คือกล้อง a7S III จาก Sony เราดีใจที่จะบอกว่ากล้องตัวนี้ไม่มีอะไรที่น่าผิดหวังเลยสักอย่าง ในความเป็นจริงแล้วมันค่อนข้างสมบูรณ์แบบมากทีเดียว และนี้คือกล้องตัวโปรดล่าสุดของเรา มันเป็นกล้อง full-frame เวอร์ชันที่ราคาถูกกว่ากล้อง C300 Mark III คุณเพียงแค่แลกเปลี่ยนข้อได้เปรียบในเรื่องของตัวภาพยนตร์เพื่อการพกพาที่สะดวกขึ้น และความสามารถในการถ่ายภาพของกล้องตัวนี้
Body และโครงสร้างกล้อง

เรารักใน Sony อย่างหนึ่งนั้นคือเขาไม่มีแนวโน้มที่จะออกแบบกล้องที่ล้าสมัยหรือกลับไปออกแบบซ้ำแบบเดิม ดังนั้นคือคุณจะได้รับทุกอย่างที่ดีกว่ากล้อง a7R IV เช่น ปุ่มที่ใหญ่ขึ้น, grip ที่ลึกขึ้น และฝาปิดสำหรับช่องเสียบต่างๆ ที่ไม่ห้อยไปห้อยมาเหมือนกล้อง a7 III แต่สิ่งที่เข้ามาแทนคือปานพับเปิดปิดได้ และพวกเขายังให้ช่องแยกสำหรับเสียบไมโครโฟนให้ด้วย ซึ่งมีขนาดเล็กซึ่งไม่รบกวนหรือบังหน้าจอแบบ fully articulating ที่เข้าเพิ่มให้ด้วย ดังนั้นเมื่อคุณถ่าย vlog ไปด้วยเสียงไมโครโฟนไปด้วยก็ไม่มีปัญหาอะไรมาบังมุมมองของคุณอย่างแน่นอน
ส่วนที่ถูกปรับปรุงครั้งใหญ่ที่สุดในตัวกล้องคือ พอร์ต HDMI ขนาด full ในด้านข้างตัวกล้อง นี้คือสิ่งที่แฟนๆ ร้องขอมาเป็นปีดังนั้นฉันจึงให้เครดิตแก่พวกเขาอย่างมากสำหรับการรวมไว้นี้ พวกเขายังให้การขันสกรู เพื่อความแข็งแรง และตอนนี้คุณได้รับหน้าปัดควบคุม 3 ด้านดังนั้นคุณสามารถจัดการด้านการรับแสงได้อย่างง่ายดาย และปุ่มชัตเตอร์ก็อยู่ในด้านที่สบายสำหรับตำแหน่งการวางนิ้ว
แป้นหมุนเลือกคำสั่งก็ได้รับการปรับปรุงเช่นกัน มีการวางการถ่ายภาพ และโหมดบันทึกวิดีโอในฝั่งตรงข้าม คั่นด้วยตัวเลือกหน่วยความจำแบบกำหนดเอง ที่ตอนนี้พวกเขาได้น้ำทั้งหมดมาอยู่แป้นหมุนรวมกันเพื่อการหมุนเปลี่ยนที่รวดเร็ว และพวกเขายังเพิ่มสล็อตหน่วยความจำแบบกำหนดเองช่องที่สามไว้ด้วยเผื่อคุณต้องการที่จะบันทึกชุดโหมดเพิ่มเติม
เมนูใหม่พร้อมกับการควบคุมด้วยการสัมผัส

ในกล้องตัวนี้ Sony ได้ให้หน้าจอแบบ flip หรือคือแบบปรับได้ และพวกเขาได้ปรับปรุงเมนูใหม่ทั้งหมดไปเป็นบางสิ่งที่คล้ายกับ Panasonic ทำ ด้วยแท็บแนวตั้งเรียงซ้อนนั้นสามารถควบคุมด้วยการสัมผัสหน้าจอด้วยการรูดเป็นหมวดหมู่ด้วยชื่อต่างๆ นี้คือการปรับปรุงครั้งใหญ่ และหน้าจอที่ชาญฉลาดโดย Sony เพราะว่ามันทำงานได้อย่างดีเยี่ยม แต่ฉันคิดว่าส่วนสำคัญของมันคือปัจจัยในการดึงดูดผู้คนให้สนใจและหันมาใช้ระบบของเขามากขึ้น และในปัจจุบัน Sony ก็ยังคงใช้หน้าจอนี้อยู่โดยยังคงมีการควบคุมเมนูใหม่เหล่านี้ทั้งหมด คุณยังสามารถตั้งค่าปุ่มแบบกำหนดเองได้ 60 รูปแบบ และยังสามารถตั้งค่าการซ้อนต่างๆ ได้
อายุการใช้งานแบตเตอรี่

จากการทดสอบของเราพบว่า มันค่อนข้างคล้ายกับกล้อง a7 III ดังนั้นการใช้งานอยู่ที่ 2.5 – 3 ชั่วโมง ถ้าคุณใช้มันเพื่อการใช้งานแบบผสม แต่ถ้าคุณถ่ายทั้งหมด 4K/60p ด้วยระบบป้องกันภาพสั่นไหวคุณจะเห็นว่ามันอาจจะใช้งานได้ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง แต่ก็ยังถือว่าเป็นผลลัพธ์ที่ดีอยู่ ด้วยอายุการใช้งานแบตเตอรี่ สำหรับการถ่ายภาพหลังจากประมาณ 90 นาทีของการใช้งานผสมว่าจะเป็นการถ่ายภาพ และการถ่ายภาพต่อเนื่องประมาณ 150 ภาพ เรายังเหลือแบตเตอรี่อยู่ 72% ดังนั้นมันยากที่จะประมาณการและมันขึ้นอยู่กับการใช้งานของคุณด้วย แต่เราก็พูดได้ว่ามันมีอายุการใช้งานที่ดีอย่างแน่นอน
ระบบป้องกันภาพสั่นไหว

การใช้งานระบบป้องกันภาพสั่นไหวเป็นสิ่งที่เราแนะนำกล้องนี้ เนื่องจากมันได้รับการอัปเดตระบบ IBIS ในกล้องนี้ คุณจะได้รับ 2 โหมดนั้นคือ Standard และ Active คล้ายกับกล้อง ZV-1 แต่ได้โหมด Active เข้ามาแทนที่ในดิจิทัล IS โหมด Active นี้ครอบตัดเพียง 10% เพื่อให้ระบบป้องกันภาพสั่นไหวที่มากขึ้น คุณสามารถใช้งานมันได้ในทุกโหมด ยกเว้นสำหรับ 4K120 ซึ่งยังมีการเปิดใช้งานการครอบตัด 1.1x ดังนั้นในส่วนนี้คุณใช้ได้แค่โหมด Standard เท่านั้นแต่มันก็ยังดูเสถียรอยู่ดี
อีกสิ่งที่ดีของระบบป้องกันภาพสั่นไหวนี้คือ หากไม่ได้ใช้เลนส์ที่มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว ดังนั้นเพียงแค่ใช้ IBIS ในโหมดการถ่ายภาพด้วยเลนส์ manual 58 มม.เราสามารถลดความเร็วชัตเตอร์ลงได้ถึง 1/15วินาที หากเราใช้เลนส์ป้องกันภาพสั่นไหว ที่ 90มม. เราจะลดความเร็วได้ที่ 1/10วินาที ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่น่าพอใจสำหรับการถ่ายภาพโดยถือกล้องด้วยมือ
จากการทดสอบที่ดูจากฟุตเทจที่เราได้บันทึกมาขณะที่เราเดินหรือ vlogging ซึ่งผลลัพธ์มันดีกว่ากล้องรุ่นก่อนหน้า แต่ก็ยังไม่เท่าระดับของ Panasonic แม้ว่าจะดีพอๆ กับกล้อง R5 แต่อย่างไรผลลัพธ์มันก็ไม่ได้แย่หรือสั่นคลอนมากเท่ากับกล้อง Canon รุ่นก่อนๆ ดังนั้นมันขึ้นอยู่กับการใช้งานของคุณ หากโดยปกติคุณไม่ได้ถ่ายเดิน หรือถ่าย vlog มากนักกล้องตัวนี้ก็เหมาะกับคุณที่ต้องการถ่ายภาพที่ลื่นไหล และถ้าหากคุณต้องการถ่าย vlog เพียงแต่คุณเพิ่มการป้องกันภาพสั่นไหวเข้าไปด้วยเลนส์ wide angle เข้าด้วยกัน คุณจะได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจจากกล้อง Sony เลยทีเดียว
โดยรวมแล้ว กล้องนี้น่าเหลือเชื่อมากเพราะมันเกินความคาดหวังของเราและเกินกว่ากล้องหลายๆ ตัว มันสามารถทำในสิ่งที่กล้องบางตัวในตลาดทำไม่ได้ และราคามันอยู่ที่ประมาณ 125,000บาท – 140,000บาท ซึ่งมันคุ้มค่ากับราคาหรืออาจจะถูกกว่ากล้องที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า สำหรับผู้ใช้งาน Canon ในปัจจุบันนี้คือกล้องในฝันของคุณ และสำหรับผู้คนที่สนใจกล้องตัวนี้ให้ระบบ Sony ที่ค่อนข้างน่าดึงดูดมากทีเดียว ด้วยสรีระภายนอกของกล้องที่ดี และเมนูที่สามารถควบคุมได้ผ่านการสัมผัสหน้าจอ, ไม่มีข้อจำกัดที่มากเกินไป, ไม่มีความร้อนสูงเกินไป และตัวเลือกเลนส์ที่ยอดเยี่ยม