กล้อง Canon EOS M200 เป็นกล้องแบบเปลี่ยนเลนส์ได้ขนาดกะทัดรัดและใช้งานง่าย ด้วยเซนเซอร์ 24MP ออโต้โฟกัส Dual Pixel ที่ยอดเยี่ยม และในด้านคุณภาพของภาพถ่ายมันก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยมซึ่งจะสามารถให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้กับคุณได้อย่างแน่นอน และมันเป็นกล้องรุ่นต่อจาก M100 รุ่นก่อนหน้าของ Canon ซึ่งเราชอบมาก ฉะนั้นเราจึงได้นำกล้องนี้มาทดสอบการใช้งานเพื่อรีวิวในด้านตัวกล้อง และคุณสมบัติของมันดังนี้
คุณสมบัติที่สำคัญ
+ เซนเซอร์ 24MP พร้อมกับโฟกัสอัตโนมัติแบบ Dual Pixel
+ การประมวลผลภาพแบบ Digic 8
+ ระบบโฟกัสอัตโนมัติในการติดตามใบหน้าและดวงตา
+ การจับวิดีโอ 4K/24p (การครอบตัด 1.7x)
+ หน้าจอสัมผัสแบบ tilting ขนาด 3 นิ้ว
+ การถ่ายภาพต่อเนื่อง 6.1fps (-4fps ด้วย AF)
+ CIPA ให้คะแนน 315 ภาพต่อการชาร์จ ชาร์จ USB
+ Wi-FI และ Bluetooth
แม้กล้อง EOS M200 ไม่ได้มาพร้อมกับเทคโนโลยี Canon ล่าสุดทั้งหมด แต่ก็ยังอัดแน่นด้วยเซนเซอร์ที่ดีพร้อมโฟกัสอัตโนมัติที่เชื่อถือได้ไว้ในตัวกล้องที่ใหญ่กว่าการ์ดหนึ่งแพ็คเล็กน้อย และด้วยเลนส์ที่ดีที่อยู่ด้านหน้าเซนเซอร์นั้น คุณจะได้ภาพถ่ายที่มีคุณภาพระดับเดียวกับกล้อง Canon EOS 80D DSLR แต่มีขนาดที่เล็กกว่ามาก
แน่นอนว่าในปัจจุบันนี้มีสมาร์ทโฟนทันสมัยมากมายที่สามารถให้ถ่ายภาพได้อย่างยอดเยี่ยมและเพียงพอ แต่กล้อง M200 นี้สามารถถ่ายภาพที่มีความละเอียดได้มากกว่า ซึ่งหมายถึงรายละเอียดที่มากขึ้นในภาพของคุณ และหากคุณเลือกใช้เลนส์เดี่ยวที่สว่างของระบบ คุณน่าจะได้รับประสิทธิภาพการทำงานในสภาวะแสงน้อยที่ดีกว่า
สิ่งใหม่ในกล้องนี้
เมื่อเทียบกับรุ่น EOS M100 ที่เป็นรุ่นเก่า โดยตัวกล้องรุ่นนี้มีปุ่มน้อยกว่า 1 ปุ่ม, มีการเชื่อมต่อแบบ micro USB แทนที่จะเป็นแบบ mini และการตั้งค่า ‘อัตโนมัติ’ บนแป้นหมุนเลือกโหมดจะเป็นสีขาวแทนที่จะเป็นสีเขียว
อย่างหนึ่งที่ได้รับการปรับปรุง คือ โฟกัสอัตโนมัติแบบตรวจจับดวงตา ซึ่งกล้อง Canon EOS รุ่นเก่าก็มีการตรวจจับใบหน้าที่ดีพอสมควร แต่การที่กล้องจับที่ตาของเป้าหมายแม้ในขณะที่ถ่ายภาพในโหมดอัตโนมัติเต็มรูปแบบ ทำให้เราเห็นได้ชัดเจนว่ามันโฟกัสในตำแหน่งที่เราต้องการอย่างถูกต้อง
การประมวลผลแบบใหม่ยังนำมาด้วยการบันทึกวิดีโอ 4K, ปรับปรุงอายุแบตเตอรี่เล็กน้อย และรูปแบบ Raw ที่บีบอัดใหม่ แต่สิ่งที่ขาดหายไปคือวิธีการประมวลผลไฟล์ Raw แบบเก่าในกล้อง ซึ่งถูกแทนที่ด้วยฟังก์ชัน Creative Assist ที่ให้ผู้ใช้ได้ใช้งานได้อย่างง่ายดายมากกว่าแต่ทรงพลังน้อยกว่า
การทำงานของกล้อง
ความสนุกแบบเดียวกับที่เราชอบใน M100 คือที่นี่ใน M200 พกพาติดตัวไปได้ง่ายและถ่ายภาพที่สวยงามได้ ไม่ว่าคุณจะออกไปทานอาหารหรือถ่ายรูปครอบครัวนอกบ้าน ถึงแม้ว่ากล้องนี้จะมีเมนูมากมายที่ดูแออัดและสับสน แต่ก็ไม่ในการตั้งค่าในสิ่งที่คุณชอบอย่างแน่นอน
ตัวเลือกการเชื่อมต่อ Wi-Fi และ Bluetooth นั้นค่อนข้างสวยงามเช่นกัน การเชื่อมต่อ Bluetooth กับ M200 กล้องจะรักษาการเชื่อมต่อนี้ไว้แม้ในขณะที่ปิดอยู่ก็ตาม ตราบใดที่คุณอยู่ในระยะของกล้อง คุณก็สามารถเปิดแอปและปิดและเรียกดูรูปภาพของคุณจากโทรศัพท์ได้อย่างรวดเร็ว แม้ว่ากล้องจะวางอยู่บนชั้นวางตรงข้ามห้องก็ตาม
จากประสบการณ์ของเรา เลนส์ kit 15-45 มม. F3.5-6.3 นั้นแข็งแกร่งและไม่ธรรมดา มันให้ช่วงซูมที่มีประโยชน์มากในขณะที่มันมีขนาดเล็ก แต่คุณจะต้องเลือกเลนส์เดี่ยว mount EF-M ของ Canon หรือ Sigma สำหรับการถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยหรือตัวเลือกเพิ่มเติมสำหรับความคิดสร้างสรรค์ในการถ่ายภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Canon EF-M 22mm F2 เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่มีขนาดเล็ก รวมทั้งราคายังไม่แพงและมี optical ที่ยอดเยี่ยม แต่ข้อเสียคือโฟกัสได้ค่อนข้างช้า แต่ควรเป็นส่วนเสริมชุดแรกสำหรับผู้ใช้ Canon EOS M นอกจากนี้มันยังมีแฟลชแบบ pop-up ที่คุณสามารถดึงกลับได้ซึ่งเป็นสัมผัสที่ดี
ข้อที่ควรพิจารณาในการเลือกกล้อง Canon EOS E200
สำหรับผู้ใช้มือใหม่และผู้ที่คลั่งไคล้ social media เราคิดว่าCanon ต้องปรับแต่งโหมดอัตโนมัติเต็มรูปแบบ โดยทั่วไปแล้วโหมดนี้จะทำให้คุณได้รับแสงและโฟกัสอัตโนมัติที่ดีแต่ M200 ไม่เหมาะกับการใช้รวมกับเลนส์เดี่ยวที่รวดเร็วที่รูรับแสงกว้างที่สุด นี้หมายความว่า M200 สร้างภาพถ่ายที่หยาบกว่าในที่แสงน้อยมากกว่าที่ควรจะเป็น และไม่ได้ให้เอฟเฟ็กต์ระยะชัดลึกแบบตื้นๆ แก่คุณ
ในการถ่ายภาพในที่แสงน้อย โดยกล้องควรเลือก F2 ไม่ใช่ F2.8 ค่า ISO จะต่ำลง ดังนั้นจึงมีเกรนน้อยลงและมีรายละเอียดที่ดีขึ้นสำหรับตัวแบบในภาพ ดังนั้นหากคุณกำลังมองหาเลนส์เดี่ยวที่เร็วกว่าสำหรับ M200 คุณอาจจะต้องมองหาเลนส์ที่มีโหมดการรับแสงขั้นสูงเพื่อให้ได้ภาพถ่ายที่ยอดเยี่ยมแทน
นอกเหนือจากนี้ Canon ยังอ้างว่าตอนนี้ EOS M200 สามารถชาร์จผ่าน USBได้ แต่เรายังไม่พบว่ามันสามารถทำแบบนั้นได้ ทำให้เราสงสัยว่าต้องใช้เครื่องชาร์จที่รองรับ ‘Power Delivery’แต่ Canon ยังไม่ยืนยันเรื่องนี้ และโดยทั่วไประบบโฟกัสอัตโนมัตินั้นใช้งานได้ แต่ก็ยังล่าช้าและช้ามากกว่าที่เราคาดไว้เล็กน้อยในที่แสงน้อย
ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องนั้นไม่น่าประทับใจเมื่อโฟกัสไปที่วัตถุที่กำลังเคลื่อนที่ สุดท้ายคือ วิดีโอ 4K นั้นดีแต่การครอบตัดมีจำกัดจนต้องเปลี่ยนเป็นเลนส์ตัวอื่นแทน Canon EF-M 11-22 มม. เพื่อให้ได้มุมรับภาพที่กว้างพอสมควรซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่าย vlogging