ด้วยตัวเลือกที่ดีที่สุดของ GoPro คุณมักจะพบกล้องแอคชั่นชื่อดังรุ่นที่ราคาไม่แพงซึ่งกลายเป็นชื่อที่ใช้ได้อย่างง่ายดาย GoPro ไม่ใช่คนกลุ่มเดียวที่สร้างกล้องที่ทนทาน, เล็ก, กันน้ำ และสามารถจับภาพนิ่งและวิดีโอคุณภาพสูงได้ ฉะนั้นจึงมีอีกหลายแบนด์ที่เข้ามาอยู่ในรายการนี้ด้วยเช่นกัน
1. DJI Action 2
สเปกของกล้อง
น้ำหนัก: 61 ก.
กันน้ำ: 40ม. (พร้อมเคส)
4K วิดีโอ: 25fps 1080: 60fps 720: ไม่
ความละเอียดภาพนิ่ง: 16MP
อายุแบตเตอรี่: สูงสุด 90 นาที
ข้อดี
+ ใช้คอมแพคหรือคอมโบยูนิต
+ อินเทอร์เฟซหน้าจอสัมผัสคู่
+ Live streaming
ข้อเสีย
– ขาดวิดีโอ 5K
– จำกัดโดยที่ไม่มี mods พิเศษ
เมื่อดูจากตัวกล้องดูจะเหมือนกับกล้อง GoPro Session แต่ลักษณะโมดูลาร์ของมันคล้ายกับกล้อง GoPro มากกว่าเช่น Hero 8 เป็นต้นไป มันยังมีตัวเลือกการป้องกันภาพสั่นไหวก็น่าประทับใจเช่นกัน รวมถึงตัวปรับระดับขอบฟ้า และมีเซนเซอร์ขนาดใหญ่ขึ้น 1 / 1.7” ให้บู๊ท แม้จะจับคู่กับอุปกรณ์เพิ่มเติม แต่ก็มีขนาดประมาณ GoPro เท่านั้น
ควบคุมผ่านหน้าจอสัมผัส มันค่อนข้างจำกัดด้วยขนาดของยูนิตกล้องหลัก แม้ว่าสิ่งที่แนบมากับหน้าจอสัมผัสด้านหน้าจะเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบทำให้ง่ายต่อการถ่าย vlogging นี้ไม่ใช่การแทนที่กล้อง GoPro Hero อย่างแน่นอนแต่นี้ก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากทีเดียว
2. DJI Osmo Action 3
น้ำหนัก: 158 ก.
กันน้ำ: 10ม.
5K วิดีโอ: สูงสุดที่ 30fps 1080: สูงสุดที่ 240 fps 720: สูงสุดที่ 240 fps
ความละเอียดภาพนิ่ง: 20MP
อายุแบตเตอรี่: ขยายได้ถึง 1-3 ชั่วโมง
ข้อดี
+ การควบคุมหน้าจอสัมผัสคู่
+ เครื่องมือในการถ่าย vlog ที่ดีทั้งในแนวตั้งและแนวนอน
+ ไม่มีความสับสนของโมดูล (เทียบกับ Action 2)
+ แบตเตอรี่ที่ได้มาตรฐาน
+ ราคาถูกกว่า GoPro
ข้อเสีย
-12 ล้านพิกเซลและความละเอียดวิดีโอสูงสุด 4K
– ไม่มีระยะเวลาของการสำรองข้อมูลบนคลาวด์
– หากเราสามารถตัวจับเวลาเริ่มต้นและหยุดจะทำให้มันยอดเยี่ยมยิ่งกว่า
– การใช้รูปแบบแนวตั้งต้องใช้เฟรม
– Voice control ค่อนข้างขาดๆ หายๆ
สำหรับนักผจญภัยส่วนใหญ่ Osmo Action 3 คือความสมดุลที่สมบูรณ์แบบของคุณภาพและราคา วิดีโอ 4K ที่ป้องกันการสั่นไหวนั้นดูดีอย่างมากและกล้องสามารถถ่ายได้มากแต่อุณหภูมิจะสูงมากเช่นกัน ถึงแม้ราคาของมันจะไม่ถูกมากขนาดนั้น แต่เมื่อเทียบกับราคาของ GoPro มันก็ยังถือว่าราคาถูกกว่าอยู่ดี
แม้ว่าจะเป็นเรื่องน่าเศร้าเล็กน้อยที่เห็นว่าการออกแบบโมดูลาร์ดูเหมือนจะไม่ได้รับการปรับปรุงต่อ จึงทำให้ Action 3 จัดการได้ง่ายกว่าและมีความสามารถที่มากกว่า สิ่งเดียวที่ยอดเยี่ยมคือขนาดและน้ำหนักที่ใหญ่ขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเอาชนะ GoPro ได้
3. DJI Pocket 2
น้ำหนัก: 117 ก.
กันน้ำ: ไม่มี
4K วิดีโอ: 60fps 2.7K: 60fps 1080: 60fps 720: ไม่มี
ความละเอียดภาพนิ่ง: 16MP
อายุแบตเตอรี่: อยู่ที่ 2 ชั่วโมงโดยประมาณ
ข้อดี
+Creator Combo ที่ยอดเยี่ยมสำหรับ vloggers
+ ขนาดเล็ก, ระบบป้องกันภาพสั่นไหวที่ยอดเยี่ยม
ข้อเสีย
– มีปัญหาในการถ่ายในที่ระดับแสงน้อย
– ไม่มีการกันน้ำ
อีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับผู้ที่ไม่กังวลเรื่องการกันน้ำ DJI Pocket 2 เหมาะกับช่องวิดีโอบล็อกที่คล้ายกับกล้อง GoPro ซึ่งอันที่จริง สามารถซื้อเป็นทั้งชุดคอมโบของ Creator ที่ยอดเยี่ยม รวมถึง Mini Control Stick, เคส, ที่ยึดขาตั้งกล้อง, สายรัดข้อมือ, ไมโครโฟนไร้สาย, กระจกหน้ารถแบบ Dead-cat, เลนส์มุมกว้าง และ Do-It-All Handle พร้อมแจ็กอินพุตไมโครโฟน
สิ่งนี้บวกกับระบบป้องกันภาพสั่นไหวระดับชั้นนำและฟอร์มแฟคเตอร์ที่พกพาได้ ทำให้ Pocket 2 เป็นหนึ่งในกล้องขนาดเล็กที่ทรงพลังที่สุดสำหรับวิดีโอ บล็อกเกอร์ แต่สิ่งหนึ่งที่ควรพิจารณาคือการถ่ายภาพในที่แสงน้อยอาจมีปัญหาและไม่น่าพอใจเท่าที่ควรนัก แต่ในส่วนของอย่างอื่นก็ถือว่าทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจในส่วนใหญ่
4. Olympus Tough TG-6
น้ำหนัก: 253 ก.
กันน้ำ: 15ม.
4K วิดีโอ: 30fps 1080: 120fps 720: 240fps
ความละเอียดภาพนิ่ง: 12MP
อายุแบตเตอรี่: 340 ช็อต (CIPA)
ข้อดี
+ ทนทานเป็นพิเศษ
+ เลนส์ซูมออปติคัล
ข้อเสีย
– ราคาแพงสำหรับขนาดกะทัดรัด
– มีขนาดที่ใหญ่กว่า GoPro
หนึ่งในข้อจำกัดหลักของ GoPros คือเลนส์มุมกว้างคงที่ คุณจึงถูกขังอยู่ในมุมมองของ GoPro ที่แตกต่าง โดย Olympus Tough TG-6 เป็นกล้องคอมแพคกันน้ำที่มาพร้อมกับเลนส์ซูมออปติคัล เทียบเท่าระยะ 25-100 มม. พร้อมรูรับแสงกว้างสุด f/2 ที่ด้านกว้าง มันดูและจัดการได้เหมือนกล้องทั่วไปมากกว่ากล้องตัวอื่นๆ ในรายการนี้ ทำให้เป็นตัวเลือกที่ใหญ่กว่า GoPro มาตรฐานอย่างเห็นได้ชัด แต่หากคุณรับได้กับสิ่งเหล่านี้ กล้องตัวนี้ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในกล้องที่ทนทานอย่างยิ่งที่จะทนต่อสภาพแวดล้อมที่แตกต่างได้
5. Insta360 ONE R Twin Edition
น้ำหนัก: ไม่ได้ระบุ
กันน้ำ: 4.87ม.
5.7K วิดีโอ: 30fps 4K วิดีโอ: 60fps 1080: 200fps 720: ไม่มี
ความละเอียดภาพนิ่ง: 12MP
อายุแบตเตอรี่: ไม่ได้ระบุ
ข้อดี
+ ปรับแต่งได้สูง
+ ถ่ายภาพ RAW ได้
+โหมดถ่ายภาพที่ขับเคลื่อนด้วย AI
ข้อเสีย
– หน้าจอขนาดเล็ก
Insta360 ONE R Twin Edition เป็นหนึ่งในรุ่นที่น่าสนใจมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งมันมีโมดูลเลนส์สองโมดูลที่สามารถเปลี่ยนได้ตามต้องการ โมดูลหนึ่งเป็นกล้อง 360 องศา และอีกโมดูลหนึ่งคือโหมดแอคชั่นการถ่ายภาพ 4K โดยตรง หากคุณต้องการ คุณสามารถเลือกโหมดเซนเซอร์ขนาดหนึ่งนิ้วที่ผลิตโดย Leica และยังมีโหมดถ่ายภาพที่ขับเคลื่อนด้วย AI ช่วยเลือกส่วนที่น่าสนใจของฟุตเทจ 360 องศา และสิ่งนี้ทำให้คุณมีความยืดหยุ่นอย่างแท้จริงในขณะถ่ายภาพ