Fuji XF10 เป็นหนึ่งในกล้องที่เล็กที่สุดที่เคยมี ด้วยขนาดกะทัดรัด และราคาย่อมเยาซึ่งจะถ่ายภาพได้ดีเยี่ยมด้วยเซนเซอร์ 24MP และเลนส์ F2.8 เทียบเท่า 28 มม. แต่ในขณะที่ภาพดูดี แต่ประสิทธิภาพโดยรวมของ XF10 อาจลดลงรวมถึงสำหรับผู้ใช้ที่มาจากกล้องของสมาร์ทโฟนด้วย
คุณสมบัติเบื้องต้น
+ เซนเซอร์ APS-C 24MP พร้อม Bayer color filter array แบบดั้งเดิม
+ เลนส์คงที่ 18.5 มม. (เทียบเท่า 28 มม.) F2.8
+ มีโหมด ‘film simulation’ ของ Fujifilm รวมถึง Classic Chrome แต่ไม่มี Acros
+ ระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ hybrid 91 จุด (ตรวจจับเฟสและคอนทราสต์)
+ โหมดโฟกัสสแนป ‘snapshot’ ตัวใหม่
+ การถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุดที่ 6fps
+ การถ่ายวิดีโอ 4K/15p หรือ 1080/60p
+ หน้าจอสัมผัสด้านหลังคงที่ และ joystick แบบอัตโนมัติ
+ Wi-Fi และ Bluetooth LE
XF10 ให้คุณภาพของภาพที่มั่นคงจริงๆ เนื่องจากมีการปรับปรุงการควบคุมให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น โครงสร้างที่กะทัดรัดยิ่งขึ้น แต่ก็ยังน่าเสียดายในบางอย่าง เช่น โฟกัสอัตโนมัติที่ไม่ดีขึ้น และความเร็วทั่วไปของการทำงานนั้นอาจทำให้ใครก็ตามที่คุ้นเคยกับความลื่นไหลของประสบการณ์สมาร์ทโฟนสมัยใหม่อาจผิดหวังได้
ตัวกล้อง
เราปฏิเสธไม่ได้ว่า Fujifilm รู้วิธีสร้างกล้องให้ดูดีและสวยงาม โดยกล้อง XF10 มีตัวเลือกให้คุณได้เลือกซื้อทั้งสี champagne และ black พร้อมตัวถังที่ดูเหมือนจะทำจากโลหะเป็นส่วนใหญ่ อย่างที่เราคาดหวังว่าจะได้เห็นสำหรับกล้องในราคาเท่านี้ เนื่องจาก XF10 มาพร้อมกับการซีลป้องกันสภาพอากาศ ดังนั้นโปรดระมัดระวังในการใช้งานองค์ประกอบต่างๆ
อย่างไรก็ตาม XF10 มีจุดเดียวที่คุณสามารถติดสายรัดข้อมือหรือฝาปิดเลนส์ที่ให้มาได้ เนื่องจากด้านหน้าของเลนส์เปิดโล่งและไม่มีวิธีการเพิ่มฟิลเตอร์หรือ เลนส์ hood นอกจากกาว ทำให้ฝาครอบเลนส์จึงจำเป็นสำหรับการป้องกัน ฉะนั้นเราจึงสามารถใส่สายรัดฝาปิดเลนส์ลงบนสายรัดข้อมือได้
บางทีในความพยายามที่จะลดขนาดกล้องลงทั้งทางร่างกายและทางการเงิน Fujifilm เลิกใช้หน้าจอเอียงที่เราเห็นใน X70 ก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดายเช่นกัน เนื่องจากมันทำให้ยากต่อการถ่ายภาพยิ่งขึ้นไปอีกในบางครั้ง
นอกจากนี้ประตูด้านข้างยังซ่อนพอร์ต 2.5 มม. สำหรับไมโครโฟนภายนอกหรือรีโมท พอร์ต micro HDMI และพอร์ต micro USB สำหรับชาร์จและดาวน์โหลดภาพ และยังมีช่องเสียบขาตั้งกล้องที่แผ่นด้านหลัง และฝาแบตเตอรี่ที่ซ่อนแบตเตอรี่ NP-95 และการ์ด SD ที่คุ้นเคยอยู่ด้วย
การควบคุมและการปรับแต่ง
โดยทั่วไปแล้วกล้องนี้มีการจัดการการควบคุมทำงานที่ดี ผู้ใช้งานระดับสูงจะพึงพอใจที่ปุ่มหมุนควบคุมโดยค่าเริ่มต้นจะควบคุมรูรับแสงและความเร็วชัตเตอร์ในโหมด manual และเมื่ออยู่ในโหมดกำหนดรูรับแสงหรือชัตเตอร์ แป้นหมุนหนึ่งจะครอบคลุมหน้าที่การชดเชยแสง พลิกกล้องไปที่โหมดอัตโนมัติเต็มรูปแบบและปุ่มหมุนด้านหลังยังคงช่วยให้สามารถควบคุมการชดเชยแสงได้
กล้องมีการปรับแต่งการควบคุมให้อยู่ด้านบนหน้าจอสัมผัสแทนการควบคุม 4 ทิศที่ด้านหลังกล้อง แม้ว่าโดยทั่วไปจะใช้งานได้ดี แต่ฉันสังเกตว่า XF10 มีความผิดพลาดเล็กน้อย แต่เราก็สามารถใช้งานหน้าจอสัมผัสและ joystick รวมด้วยได้ นอกจากการปรับนี้แล้ว ยังมีปุ่ม manual อีก 2 ปุ่ม และยังสามารถปรับแต่งการทำงานของวงแหวนรอบเลนส์ได้อีกด้วย ซึ่งเมื่อเราใช้งานโดยเลือกการปรับแต่ง manual เอง แต่ก็ใช้ joystick เพื่อนำทางเมนูก็ยังมีความยุ่งเหยิงอยู่บ้าง
อย่างสุดท้ายคือ การใช้ ISO อัตโนมัติช่วยให้คุณเลือกการตั้งค่า ISO อัตโนมัติจาก 3 ช่อง ซึ่งในแต่ละค่า คุณสามารถปรับแต่งค่า ISO ที่ต่ำและสูงได้ รวมถึงความเร็วชัตเตอร์ขั้นต่ำที่ควรใช้ได้อีกด้วย
การเชื่อมต่อ
อย่างที่เราคาดหวัง สำหรับกล้องที่มุ่งเป้าไปที่ช่างภาพสมาร์ทโฟนที่ต้องการอัพเกรด เนื่องจากกล้อง XF10 มีตัวเลือกการเชื่อมต่อที่ดี เมื่อคุณเปิดใช้งาน Bluetooth บนตัวกล้องแล้ว คุณสามารถเชื่อมต่อทั้งสองจากภายในแอพ Fujifilm Camera Remote ได้ เมื่อจับคู่โทรศัพท์และกล้องแล้ว จะยังคงเชื่อมต่ออยู่เพื่อให้ดาวน์โหลดภาพโดยอัตโนมัติได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้คุณยังสามารถซิงค์วันที่และเวลาและตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ผ่าน Bluetooth ในขณะที่คุณถ่ายภาพได้ด้วย และยังมีฟังก์ชันที่สำคัญ เช่น การดาวน์โหลดรูปภาพหรือการเรียกดูสิ่งที่อยู่ในการ์ดหน่วยความจำจำเป็นต้องใช้ Wi-Fi ซึ่งแอปจะสลับไปใช้ตามความจำเป็น
คุณภาพของภาพถ่ายและวิดีโอ
(เครดิต: Wenmei Hill)
+ คุณภาพของภาพนั้นยอดเยี่ยม พร้อมการเก็บรายละเอียดที่ดี เลนส์ที่คมชัด (เพียงพอ) การแสดงสีที่ดีและระดับจุดรบกวนต่ำ
+ โดยทั่วไป เลนส์จะแสดงพื้นที่ที่อยู่นอกโฟกัสได้ดี แต่ไฮไลท์ที่อยู่นอกโฟกัสอาจดูยุ่งหรือ ‘เลอะเทอะ’ ในบางครั้ง
+ วิดีโอมีคุณภาพที่ไม่น่าประทับใจเท่าไรนัก
หลังการทดลองใช้งานของเรากับกล้อง Fujifilm XF10 สรุปได้ว่าไม่น่าประทับใจเท่าที่ควรนัก เนื่องจากเรามีกล้องราคาย่อมเยาที่ออกแบบมาอย่างสวยงาม มาพร้อมกับเซนเซอร์ที่ทันสมัย การควบคุมที่สมเหตุสมผล และใส่ในกระเป๋าเสื้อโค้ทของเราได้พอดี แต่อย่างไรก็ตาม เราก็ยังคงชอบสีภาพ JPEG ชอบเลนส์ เราสนุกกับภาพที่สามารถทำได้จริงๆ
และในโหมดของวิดีโอ เราจะสามารถเห็นได้ทันทีว่า XF10 ดูเหมือนจะใช้วิธีการบันทึกวิดีโอแบบเดียวกับ X-T100 ซึ่งรองรับการจับภาพ 4K/15p ด้วย แต่ผลลัพธ์ของมันไม่ค่อยดีนักนอกจากจะเป็นสิ่งที่เราถือว่ามันไม่สมบูรณ์ แต่ในแง่ดีการเปิดใช้งานระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบดิจิทัลจะไม่ทำให้ภาพด้อยคุณภาพลงอีก