กล้อง Fujifilm Instax Mini Evo เป็นกล้อง instant แบบ hybrid ตัวโปรดของเรามาอย่างยาวนาน เนื่องจาก รุ่น Instant แบบ hybrid เป็นการผสมผสานการถ่ายภาพดิจิทัลและฟิล์ม Instant ไว้ในเครื่องเดียวทำให้เป็นจุดเริ่มต้นที่เหมาะสมสำหรับทุกคนที่ไม่คุ้นเคยให้ได้เริ่มใช้งานมันได้อย่างง่ายขึ้น
ตัวกล้อง Instax Mini Evo แสดงให้เห็นถึงยุครุ่งเรืองของ Fuji ในปี 1970 ด้วยการออกแบบสไตล์ retro ทั้งฟิลเตอร์ และเอฟเฟ็กต์ที่ใช้งานได้อย่างง่ายดายที่ออกแบบมาเพื่อเลียนแบบ analogue film
หน้าจอ LCD และช่องเสียบการ์ดที่เพิ่มเข้ามา ซึ่งอาจไม่น่าประทับใจให้กับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพแบบพิมพ์ทันที แต่เมื่อราคาฟิล์มแต่ละแพ็คก็ต้องมีค่าใช้จ่าย ก็ไม่น่ายากที่กล้องนี้จะสามารถดึงดูดผู้คนให้สนใจได้ เพราะคุณสามารถเลือกพิมพ์เฉพาะภาพที่คุณพอใจได้แทนที่จะพิมพ์ทุกครั้งที่คุณกดปุ่มชัตเตอร์
การออกแบบและคุณสมบัติ
– รูปลักษณ์สไตล์ retro ร่วมกับเทคโนโลยีที่ทันสมัย
– หน้าจอ LCD ทำหน้าที่เป็นช่องมองภาพดิจิทัล
– การควบคุมที่ใช้งานง่าย
ด้วยรูปลักษณ์แบบหนังเทียมและโครเมียมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกล้อง rangefinder รุ่นเก่า ทำให้กล้อง Evo Mini มีสไตล์อย่างปฏิเสธไม่ได้ แต่โครงสร้างเกือบทั้งหมดของกล้องเป็นพลาสติก ดังนั้นจึงไม่ได้ไม้ให้ความรู้สึกหรูหราอย่างที่เห็น แต่ยังถือได้อย่างมั่นใจและมีน้ำหนัก
ด้วยการติดตั้งเซนเซอร์ดิจิทัลระหว่างเลนส์และฟิล์ม ทำให้ได้ตัวกล้องที่เล็กกว่ากล้อง instant ทั่วไปมาก เนื่องจากเลนส์ยื่นออกมาเพียงเล็กน้อยจากตัวกล้องหลัก ดังนั้นจึงใส่และหยิบออกจากกระเป๋าได้ง่าย แต่จะมีเฉพาะกระเป๋ากางเกงที่ใหญ่ที่สุดเท่านั้นที่จะใส่ได้
ด้านหน้าของกล้องค่อนข้างเบาบาง มีสวิตช์เปิด/ปิด ปุ่มชัตเตอร์ และกระจกเซลฟี่ขนาดเล็กรอบกระบอกเลนส์ ซึ่งสามารถบิดไปมาระหว่างโหมดเลนส์ได้
ด้านบนของตัวกล้องมีปุ่มชัตเตอร์ที่สอง ทางลัดการตั้งค่า และแป้นหมุนเลือกโหมดสำหรับเอฟเฟ็กต์โดยเฉพาะ ในการพิมพ์ภาพถ่าย ให้คุณดึงคันโยกที่มีลักษณะเหมือนกับการเลื่อนฟิล์มแบบ analog ซึ่งเป็นสัมผัสที่ประณีต ซึ่งมีเพียงไม่กี่ปุ่มเท่านั้นที่มีชื่อกำกับบอก ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้ใหม่อาจสับสนว่าควรกดอะไร ตรงไหน
หน้าจอ LCD ขนาด 3 นิ้วและปุ่มควบคุมการนำทางที่ด้านหลังทำให้กล้องมีลักษณะแบบ hybrid ติดตั้งเข้ากับประตูฟิล์มซึ่งให้ความแข็งแรงมากทีเดียว และแบตเตอรี่ในตัวให้การถ่ายภาพที่ดีสูงถึง 100ภาพ และภาพพิมพ์ประมาณ 20 ภาพ ซึ่งมันสามารถชาร์จผ่านช่อง micro USB ที่อยู่ด้านล่างกล้องได้ และอีกทั้งหน่วยความจำในตัวของ Mini Evo สามารถเก็บภาพได้มากถึง 45 ภาพ ก่อนที่คุณจะต้องเพิ่มที่จัดเก็บข้อมูลภายนอก
ประสิทธิภาพ
– เลนส์ขยายได้ถึง 35มม.
– แฟลชอัตโนมัติ
– การตั้งเวลาถ่ายภาพ และฟิลเตอร์/เอฟเฟ็กต์รวมกัน 100 แบบ
ตัวกล้องอาจจะมีลักษณะเป็นกล้องแนวนอน แต่หน้าจอ LCD ของ Mini Evo นั้นถูกล็อกมาในรูปแบบแนวตั้ง ซึ่งมันเหมาะกับการถ่ายภาพฟิล์ม instax อย่างมาก ซึ่งมีขอบภาพที่ด้านบนกับด้านล่างไม่เท่ากันซึ่งเข้ากันกับการถ่าย portrait ได้อย่างดีเยี่ยม แต่การถ่ายในที่แสงแดดจ้ามักจะพบปัญหาได้ เนื่องจากหน้าจอ LCD ไม่ได้มีความสว่างมากพอเลยอาจทำให้มองได้ยาก
การบิดกระบอกเลนส์หรือแป้นหมุนเอฟเฟ็กต์จะหมุนผ่านชุดค่าผสมต่างๆ กว่า 100 ชุดอย่างรวดเร็ว โดยไลฟ์วิวจะอัปเดตแทบจะในทันที แม้ว่าบางส่วนอาจไม่ได้น่าประทับใจมาก แต่มันก็สามารถช่วยคุณสร้างสรรค์ภาพถ่ายได้อย่างเพลิดเพลิน
ตัวบ่งชี้การนับถอยหลังใกล้ด้านล่างของหน้าจอจะเตือนคุณว่าฟิล์มเหลืออยู่ในกล้องเท่าไร ยังมีการเปิดรับแสงและสมดุลแสงขาวเป็นแบบอัตโนมัติ แต่สามารถปรับแต่งได้ด้วยการกดปุ่มเพียงไม่กี่ครั้ง และปุ่มลั่นชัตเตอร์ทั้งสองกดลงครึ่งหนึ่งเพื่อล็อกโฟกัสอัตโนมัติตรงกลางกรอบ ซึ่งอาจช้าเล็กน้อยในแสงสลัว
นอกจากนี้ยังมีบลูทูธที่สามารถจับคู่กับสมาร์ทโฟนของคุณได้อย่างสะดวก ด้วยแอพ Mini Evo ของ Fuji ค้นหากล้องทันทีและใส่ฟังก์ชันที่เป็นประโยชน์ เช่น รีโมทชัตเตอร์ การพิมพ์โดยตรงและการแบ่งปันภาพบนหน้าจอหลัก แต่ข้อจำกัดคือคุณจะสามารถแชร์รูปภาพจากกล้องไปยังโทรศัพท์ได้ก็ต่อเมื่อได้รับการพิมพ์ก่อนเท่านั้น
คุณภาพของภาพถ่าย
– สีและ contrast ที่เป็นธรรมชาติ
– ฟิลเตอร์และเอฟเฟ็กต์ดูน่าเชื่อถือเมื่อพิมพ์ออกมา
– ภาพดิจิทัลยังขาดรายละเอียด เทียบเท่ากับสมาร์ทโฟนพื้นฐาน
ด้วยคุณภาพการพิมพ์ที่ตั้งค่าเป็น “Instax Rich” Mini Evo จึงสร้างภาพถ่ายที่ทัดเทียมกับกล้อง analogue instant เต็มรูปแบบของ Fuji ภาพที่ส่งจากสมาร์ทโฟนสำหรับการพิมพ์ดูเหมือนจะมีความละเอียดต่ำกว่าภาพที่ถ่ายด้วยกล้องเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ชัดเจนเท่าไรนัก
โดยทั่วไปสีและ contrast จะดูจัดจ้าน โดยมีเงาดำและ highlight ที่ซีดกว่า แต่มีรายละเอียดที่คมชัดกว่าทั่วไป และไม่มีแสงรั่วเหมือนที่คุณพบในกล้องสไตล์ lomography เว้นแต่คุณจะบังคับเพิ่มบางส่วนโดยใช้วงล้อเอฟเฟ็กต์ มีแนวโน้มที่จะเปิดรับแสงมากเกินไปในสภาพแวดล้อมกลางแจ้งที่มีแสงจ้า แต่คุณสามารถกำหนดด้วยตัวเองที่ -2/3EV ได้เพื่อช่วยลดแสงที่จ้าเกินไป
ภาพดิจิทัลของ Mini Evo นั้นแทบไม่น่าประทับใจเท่ากับภาพพิมพ์ เนื่องจากขาดรายละเอียดและระดับสัญญาณรบกวนในฉากที่มืดลงอย่างเห็นได้ชัด มันอาจเทียบได้กับสมาร์ทโฟนรุ่นพื้นฐานที่สุดเท่านั้น ซึ่งอาจจะไม่สามารถดึงดูดบางคนให้สนใจได้ และช่วงไดนามิกเป็นค่าเฉลี่ยที่ชัดเจนและสีอาจไม่น่าทึ่งเท่าที่ปรากฏเมื่อพิมพ์ออกมาแต่อย่างไรก็ตามมันก็ดีพอสำหรับการใช้งานบน social media