เราจะมาพูดถึงกล้อง Fujifilm X-H2S กันซึ่ง Fuji เรียกว่าเป็นกล้อง flagship APS-C ตัวใหม่ของพวกเขา ในขณะที่มันมีข้อบกพร่องเล็กน้อย แต่ส่วนตัวเราโดยรวมนี้คือกล้อง mirrorless แบบ hybrid APS-C ที่ดีที่สุดจาก Fuji
กล้องตัวนี้ให้ภาพถ่ายที่มีคุณภาพยอดเยี่ยม, มีการปรับปรุงฮาร์ดแวร์ที่สำคัญหลายประการ และตัวกล้องที่ทำได้ดีต่อการใช้งานขึ้นมากกว่ากล้องตัวก่อนหน้าเช่น X-T3, X-H1 และ X-T4 แต่อย่างไรก็ตามก็ยังคงพบปัญหาในระบบโฟกัสอัตโนมัติและระบบป้องกันภาพสั่นไหวอย่างกล้อง X-T4 เป็นแต่มันให้การชดเชยได้ด้วยการเพิ่ม log gamma ตัวใหม่, rolling shutter ที่เร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และไม่มีการจำกัดเวลาบันทึกวิดีโอ
โครงสร้างกล้อง และขนาดที่คุณต้องชอบ
อย่างแรกเลย ตัวกล้องออกแบบมาเหมาะต่อการจับถือที่ถนัดมือได้อย่างดีเยี่ยม, มันมี grip ที่ลึกด้วยการจัดวางปุ่มที่ดี และยังมาพร้อมกับแป้นหมุนแบบวินเทจด้านบนเพื่อทำให้มันดูทันสมัยมากขึ้น มันชวนให้นึกถึงกล้องรุ่น GFX มากกว่ากล้อง X series ก่อนหน้า
แต่พอร์ตก็ได้รับการปรับปรุงมากเช่นกัน เพราะเราได้รับช่องสำหรับ HDMI แบบ full size 1ช่อง, ช่องสำหรับหูฟังและแจ็คไมโครโฟน มาในขนาด 3.5 มม.ทั้งคู่ และช่อง USB ที่ไม่ต้องใช้ Adapture ใดๆ ที่มีฝาปิด และไมโครโฟนอยู่ข้างบนหน้าจออย่างปลอดภัยเมื่อพลิกออกมา และแน่นอน หน้าจอนี้คล้ายกันกับหน้าจอ fully-articulating จากกล้อง X-T4
อายุการใช้งานแบตเตอรี่
เมื่อพูดถึง USB ก็มีพอร์ต Type-C ที่สามารถชาร์จเพื่อขยายเวลาการทำงานให้เกิดขีดจำกัดปกติของแบตเตอรี่ได้ ซึ่งนี่เป็นแบตเตอรี่ W235 เหมือนกันกับที่พบบนกล้อง X-T4 แต่ตอนนี้มันใช้งานได้นานขึ้นเพราะมันได้รับการปรับปรุงที่มีประสิทธิภาพของเซนเซอร์ตัวใหม่และการประมวลผลในกล้อง เมื่อใช้งานบันทึก 4K ที่ frame rates ต่ำพบว่ามันใช้งานอยู่ที่ประมาณ 2.5ชั่วโมง และใช้งานได้มากกว่า 90นาที เมื่อใช้งาน 4K60
ความร้อน และขีดจำกัดการบันทึก
นี้เป็นกล้องที่ไม่มีการบังคับจำกัดเวลาในการบันทึก ปัจจัยจำกัดเดียวในตอนนี้คือ ความร้อนและพื้นจัดเก็บ เพื่อจัดการกับความร้อนมีสองอย่างเพิ่มเติม อย่างแรกพวกเขาได้เพิ่มการตั้งค่า Sony-style overheating ในเมนูที่สามารถให้คุณเพิ่มขีดจำกัดอุณหภูมิที่ high อย่างที่สอง พวกเขาได้อัพเกรดหน้าสัมผัสที่ด้านหลัง ใต้หน้าจอ เพื่อติดพัดลมที่เป็นอุปกรณ์เสริมและยังมีฝาปิดมาให้ด้วยเพื่อเป็นการรักษาความทนทานต่อสภาพอากาศ
เกี่ยวกับความร้อนสูง นอกจากพัดลมและการตั้งค่าเกณฑ์อุณหภูมิที่ high เราได้ลองบันทึกวิดีโอ 4K60 ในสภาพแวดล้อมสตูดิโอที่อุ่นจนแบตเตอรี่หมดโดยไม่มีคำเตือนเรื่องความร้อนใดๆ และแบตเตอรี่อยู่ได้นานสุดที่ 1 ชั่วโมง 37 นาที มันมีเพียง 4K120 เท่านั้นที่เราพบว่าร้อนเกินไปโดยที่ไม่มีพัดลมและแบตเตอรี่หมดอยู่ที่ 42นาทีซึ่งอยู่ในสตูดิโอเหมือนกัน แต่เมื่อใช้พัดลมรวมด้วย อุณหภูมิจะอุ่นอยู่ประมาณที่ 40นาที และแบตเตอรี่อยู่ที่ 1 ชั่วโมง 9นาที
ระดับความละเอียด 4K60 และ 4K120
4K60 เป็นหนึ่งสิ่งที่ได้รับการปรับปรุงด้วยการสุ่มตัวอย่างมากเกินไปโดยไม่มีการครอบตัดเพิ่มเติม โดยพื้นฐานและภาพเดียวกันกับ 4K24 ซึ่งยอดเยี่ยมมาก ในอีกด้านของ 4K120 มีการจำกัดเล็กน้อยที่ใช้ได้ในโหมดความเร็วสูงเท่านั้นดังนั้นไม่มีเสียงและโฟกัสอัตโนมัติซึ่งดูเหมือนจะทำงานได้แย่ลงไปอีกและมีการครอบตัด บนรูปภาพเพิ่มเติม 30% แต่อย่างไรก็ตาม มันก็ยังคงดูคมชัดเนื่องจากการสุ่มตัวอย่างมากเกินไปจากส่วนที่เล็กกว่าของเซนเซอร์ 6.2K
ระบบ Rolling shutter
นอกเหนือจาก frame rates ที่ดีขึ้นนั้น การทำงานที่ผสมระหว่างเซนเซอร์และ processor ตัวใหม่ยังให้การอ่านค่าที่รวดเร็วอีกด้วย ด้วยคำกล่าวอ้างของ Fuji ที่ว่ามีการเพิ่มจาก 1/60th ในกล้อง X-T4 ถึง 1/180th ในกล้องรุ่นใหม่นี้ซึ่งเร็วกว่ากล้อง a7S III อีกด้วย
และเราเห็นด้วยว่าประสิทธิภาพในการทำงานของ rolling shutter นั้นยอดเยี่ยม อย่างไรก็ตามคุณจะสามารถสังเกตเห็นได้ว่าการปรับปรุงนี้ลดลงเล็กน้อยเมื่อคุณถ่ายภาพใน F-log2 ที่ 30 เฟรม/วินาที หรือน้อยกว่านั้นเป็นเพราะว่าในโหมดนี้กล้องจะใช้การแปลงไฟล์ RAW 14-bit ถึง 10-bit แทนที่จะเป็น 12-bit ที่คุณพบเจอได้ตามปกติ
สรุปรายละเอียด
โดยปกติแล้วผู้คนมักชอบเปรียบเทียบกล้องข้ามแบรนด์ในเรื่องความคุ้มค่าและราคาและเราไม่คิดว่านี้สมเหตุสมผล กล้องที่พึ่งเปิดตัวเร็วๆ นี้ในราคาประมาณที่ 87,000บาทยังมีหลายตัวซึ่งรวมไปถึง กล้อง micro four thirds ของ Panasonic GH6, กล้องตัว APS-C ตัวใหม่นี้จาก Fuji และกล้องแบบ full frame ของ Sony a74
การจะซื้อกล้องหนึ่งตัวเราต้องเลือกจากข้อดีและข้อเสียของมันเช่น กล้อง Sony มีโฟกัสอัตโนมัติที่ยอดเยี่ยม, full frame hybrid ที่น่าดึงดูดใจ และมีเลนส์ที่น่าประทับใจแต่มีประสิทธิภาพ rolling shutter ที่ไม่ค่อยน่าประทับใจนัก และกล้อง Panasonic สามารถเอาชนะ Fuji ได้เมื่อมันมาพร้อมกับระบบป้องกันภาพสั่นไหว, เครื่องมือวิดีโอที่มีความสามารถ และรับรอง anamorphic แต่กล้อง Fuji มีช่วงไดนามิกที่ดีกว่า Panasonic และมี rolling shutter ที่ดีกว่า Sony แต่ Fuji ไม่สามารถเปรียบเทียบในเรื่องของระบบป้องกันภาพสั่นไหวหรือโฟกัสอัตโนมัติ คุณต้องตัดสินใจจากราคาและพื้นฐานของกล้อง ซึ่งต้องดูว่าสิ่งไหนมีประโยชน์ต่อการถ่ายภาพของคุณมากกว่ากัน