กล้อง Kodak Pixpro WPZ2 เป็นกล้องสมบุกสมบันที่มีราคาไม่แพง ซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เราสนใจกล้องตัวนี้ อีกเหตุผลหนึ่งที่เราอาจพิจารณาก็คือชื่อ และความเป็น Kodak ก็ยังคงมีความสำคัญ โดยภายนอกของกล้องมีความคล้ายกับกล้องสแน็ปช็อตพื้นฐานบน steroids ซึ่งกล้องมีความละเอียดที่ 16MP ที่รวม WPZ2 และมีสีให้เลือกมากมาย
และเมื่อเราไม่สามารถนำกล้องสมาร์ทโฟนไปถ่ายภาพในสระว่ายน้ำหรือชายหาดเพื่อถ่ายภาพหรือถ่ายวิดีโอได้โดยเฉพาะในน้ำ กล้องดิจิทัล compact ที่แข็งแกร่งอย่าง Kodak PixPro WPZ2 ซึ่งเป็นกล้องที่รวมทั้งความทนทานของการกันน้ำและกันกระแทกมาไว้ในตัวแล้วเรียบร้อย
สเปกเบื้องต้น
เซนเซอร์: 16MP
ช่วงความไว: อัตโนมัติ
วิดีโอ: Full HD 1920 x 1080 พิกเซล
เลนส์: การซูม optical 4x, 27 – 108มม., f/3.0-f/6.6
หน้าจอ: LCD ขนาด 2.7 นิ้ว
ช่องมองภาพ: ไม่มี
อายุการใช้งานแบตเตอรี่: ถ่ายได้มากถึง 200 ภาพ / การชาร์จ 1 ครั้ง
ขนาด: 103.2 x 66.7 x 52.4 มม. (4.06 x 2.62 x 2.06 นิ้ว)
น้ำหนัก: 176 กรัม
ข้อดี
+ มีความทนทานแต่ก็ยังมีขนาดที่ค่อนข้างกะทัดรัด
+ กันฝุ่น และกันน้ำได้ลึกถึง 15 เมตร
+ กันกระแทกจากการหล่นหรือตกได้มากถึง 2 เมตร
+ มีความสามารถในการเชื่อมต่อ Wi-Fi ในตัว
ข้อเสีย
– หน้าจอค่อนข้างเล็กสำหรับการแต่งภาพและการตรวจทาน
– เซนเซอร์ขนาดเล็กและเซ็ทคุณสมบัติที่ให้ค่อนข้างพื้นฐาน
คุณสมบัติเบื้องต้น
แม้กล้องจะมีขนาดเล็กแต่มันก็มีคุณสมบัติพื้นฐานที่ควรมีอย่างครบถ้วน สิ่งที่น่าสนใจหลักของมันไม่ใช่เซนเซอร์ CMOS แบบรับแสงด้านหลังที่มีความละเอียด 16MP หรือการซูมแบบ optical 4x ซึ่งเริ่มจากระยะเทียบเท่า 27 มม. ที่ด้านกว้างที่สุดไปจนถึง 108 มม. ที่การตั้งค่าเทเลโฟโต้สูงสุด แต่คือ เลนส์ซูมของมันที่ได้รับการปกป้องหลังตัวเรือนคงที่อีกทีหนึ่ง
โดยกล้อง compact กันน้ำส่วนใหญ่ได้รับการจัดการแบบดั้งเดิมเพื่อให้ได้แผ่นปิดหน้าที่เรียบขึ้นและคล่องตัวมากขึ้นโดยการรวมกลไกการซูมแบบซ้อนภายในเข้าด้วยกันอย่างชาญฉลาด ซึ่งตรงนี้เราจะเห็นเลนส์เคลื่อนไหวภายในตัวเรือนเมื่อเราสลับคันโยกซูมบนแผ่นรองด้านหลัง
เพื่อป้องกันส่วนอื่นๆ ของกล้องจากน้ำหรือสิ่งสกปรกต่างๆ ยังมีตัวล็อคบนฝาแบบพลิกเปิดที่ปกป้องช่องสำหรับใส่แบตเตอรี่ การ์ด และพอร์ตว่าง รวมถึงพอร์ต USB ที่ใช้ชาร์จแบตเตอรี่ดังกล่าว และเราต้องหาปลั๊กไฟของเราเองเพื่อต่อกับสาย USB ที่ให้มาเนื่องจากไม่ได้แถมมาในกล่อง
สำหรับคุณสมบัติของความทนทานต่างๆ WPZ2 ระบุว่าสามารถกันน้ำได้ลึกถึง 15 เมตร และกันกระแทกเมื่อหล่นลงพื้นจากความสูงไม่เกิน 2 เมตร นอกจากนี้ยังกันฝุ่นได้อีก ดังนั้น ในทางทฤษฎีแล้วเศษกรวดที่น่ารำคาญก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาเช่นกัน
เนื่องจากกล้องนี้เป็นกล้องเล็งแล้วถ่ายแบบ ‘อัตโนมัติทุกอย่าง’ หลอดไฟทรงกระบอกจะอยู่บนตัวเรือนเลนส์ e ขณะที่ภาพจะถูกจัดองค์ประกอบและตรวจสอบ ตลอดจนเลือกและใช้งานโหมดถ่ายภาพและตัวเลือกเมนูผ่านหน้าจอ LCD ที่แผ่นด้านหลัง และยังมาพร้อมกับหน้าจอที่มีขนาดเพียง 2.7 นิ้วที่มีความละเอียด 230k พิกเซลที่พอใช้ได้และมีระยะโฟกัสต่ำสุดคือ 5 ซม.
โครงสร้างและการจัดการ
โครงสร้างในส่วนที่นูนของกล้อง Kodak WPZ2 ทำให้เรานึกถึงหมวกดำน้ำสไตล์วินเทจที่หนาเทอะทะ และมีสกรูที่มองเห็นได้เพิ่มเติมที่มุมทั้งสี่ของแผ่นปิดหน้า แต่โครงสร้างของมันให้ความรู้สึกมั่นคงเมื่อถือในมือแม้จะมีราคาย่อมเยาก็ตาม
แม้ว่าจะไม่มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ optical เพื่อป้องกันผลกระทบจากการสั่นไหวของมือและกล้องสั่นซึ่งส่งผลให้ภาพเบลอในตัว แต่เราก็ยังได้รับระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัวแบบดิจิทัล และมีปุ่มลั่นชัตเตอร์เพลทด้านบนมีขนาดใหญ่พอที่จะไม่มีใครพลาดแม้จะอยู่ใต้น้ำ แม้จะมีขนาดเล็กกว่าเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสับสนกัน ระหว่างปุ่มเปิด/ปิด กับชัตเตอร์
ปุ่มและส่วนควบคุมแผ่นรองด้านหลังเป็นอย่างที่เราคาดหวังว่าจะได้รับในระดับเริ่มต้น และในขณะเดียวกันก็ไม่ได้มีขนาดที่ใหญ่มากเพื่ออำนวยความสะดวกในการควบคุมด้วยนิ้วเปียกหรือเมื่อสวมถุงมือ ถึงกระนั้นกล้องก็ยังใช้เวลาในการเปิดใช้งานที่ประมาณ 2 วินาที และภาพ JPEG 16MP คุณภาพระดับ ‘ดีที่สุด’ จะถูกส่งไปยังหน่วยความจำในเวลาเพียงเสี้ยววินาที รวมทั้งการถ่ายวิดีโอ Full HD ที่ 1920×1080 พิกเซลและอัตราเฟรม 30fps
ประสิทธิภาพ
(เครดิต: Gavin Stoker / Digital Camera World)
ด้วยกล้องลักษณะนี้ที่เราจะสามารถพกพาไปที่ชายหาด สระว่ายน้ำ ทริปเล่นสกี และอื่นๆ ในทุกสภาพอากาศในที่กลางแจ้ง และการทำงานของมันทุกอย่างเป็นอัตโนมัติ ทำให้ตัวเลือกคุณภาพของภาพนั้นค่อนข้างเรียบง่าย เช่น สแนปช็อต Kodak Pixpro FZ55 ที่ไม่ผ่านการปรับปรุงคุณภาพที่เราเพิ่งตรวจสอบไปเมื่อเร็วๆ นี้ โดยมันมีให้เลือกถึง 3 ระดับ คือ ‘Best, Fine or Normal’ และเราเลือก Best
ก่อนที่เราจะเริ่มถ่ายภาพ เราต้องใส่ microSD ที่เป็นอุปกรณ์เสริม ซึ่งสามารถรองรับได้สูงสุด 32GB แต่สิ่งที่มีปัญหาอย่างหนึ่งในสิ่งนี้คือ ช่องเสียบการ์ดที่อยู่ค่อนข้างลึก ทำให้ใส่ยากเล็กน้อยนอกจากว่าเราจะมีเล็บยาว และเซนเซอร์ CMOS ขนาด 1/2.3 นิ้วแบบ illuminated ที่ด้านหลังมีขนาดเล็กที่เหมาะสม และด้วยเหตุนี้ การตั้งค่าความละเอียดที่สูงสุด 16.35MP ใช้งานจึงสมเหตุสมผล
แม้ว่าเราจะไม่ได้คาดหวังมากนักในคุณภาพของภาพที่ได้จากชิปขนาดเล็กเช่นนี้ และการซูมแบบ optical 4x ที่ให้มาก็ไม่ได้ให้โอกาสในการจัดเฟรมที่สร้างสรรค์มากนัก แต่เราก็ยังประทับใจกับผลลัพธ์ของมันอยู่ดี