เราจะมาพูดถึงกล้อง Sigma fp L กันซึ่งเป็นกล้องที่ทำให้เราสับสนมากกว่ากล้องตัวอื่นๆ ที่เราเคยรีวิวมา เราคิดไม่ออกว่าใครจะให้สิ่งที่ดีแบบนี้มาในราคานี้ โดยมันอยู่ที่ราคาประมาณ 87,000 บาท สำหรับแพ็คเกจกล้องพื้นฐาน และในราคา 105,000บาท หากคุณต้องการชุด EVF หรือหากคุณต้องการวางแผนที่จะใช้สิ่งนี้เพื่อถ่ายภาพ, ตรวจสอบเสียงของคุณหรือใช้งานที่แสงจ้าภายนอก EVF คือข้อบังคับพื้นฐาน
เราขอแนะนำให้คุณทำความคุ้นเคยกับ Sigma fp ตัวดั้งเดิมเกี่ยวกับรายละเอียดที่มันได้รับการปรับปรุงและความเป็นเป็นไปได้ในรุ่นต่อไป แต่น่าเสียดายปัญหาส่วนใหญ่ที่พวกเขาพูดถึงไม่ได้รับการแก้ไขอย่างแท้จริงในกล้องนี้ แต่ EVF ตัวใหม่ที่เพิ่มเข้ามาทำได้ และในเรื่องของราคาที่มารวมกับ EVF ในราคา 105,000 บาท
ความสามารถในการถ่ายภาพเมื่อเทียบกับ a7R IV
กล้อง sigma fp L เป็นกล้องแบบ full frame ที่มีเซนเซอร์ความละเอียด 61MP เราคิดว่ามันเป็นอันเดียวกันกับที่พบได้ในกล้อง a7R IV ของ Sony แต่กล้อง a7R IV ทำบางอย่างที่ Sigma fp L ทำไม่ได้อย่างเช่น ชัตเตอร์แบบ mechanical, grip ที่เหมาะสม, รูปลักษณ์ดีกว่า, ปุ่มที่มากกว่า, คุณสมบัติการถ่ายที่กว้างขวาง, โฟกัสอัตโนมัติที่น่าประทับใจ, หน้าจอแบบ angle และแบตเตอรี่ที่ใหญ่กว่า แต่นั่นอาจเป็นเพราะกล้อง a7R IV มีราคาที่ 105,000บาท แต่โดยรวมแล้ว หากคุณมองหากล้องที่สามารถถ่ายภาพได้ดีเยี่ยมสำหรับ 3 แบรนด์ ให้ซื้อกล้อง a7R IV ไม่ใช่ Sigma fp L เพราะนี้ไม่ใช่กล้องที่เหมาะสมต่อการถ่ายภาพเท่าไรนักและการกำหนดราคานั้นจะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นประจำ
และเมื่อพูดถึงในเรื่องวิดีโอ และเปรียบเทียบกับกล้องที่มีราคาเท่ากันตัวใหม่อย่างกล้อง Blackmagic Pocket 6K Pro และร่วมกับ EVFด้วยมันมีราคาแพงกว่า Panasonic S1 และราคาใกล้เคียงกับ a7S III หรือ S1H และนี้คือสิ่งที่ไม่สมเหตุสมผลเพราะเซนเซอร์ความละเอียด 61MP ไม่ได้ทำมาเพื่อวิดีโอ แต่เมื่อได้ลองแล้วพบว่า คุณภาพในความสามารถของการบันทึกวิดีโอนั้นมีความคล้ายกันมาก
ตัวอย่างเช่นกล้อง fp L สามารถถ่ายภาพนิ่งได้เพียง 4K30 ที่ความละเอียดสูงสุดและ frame rate และมันยังคงบันทึกวิดีโอได้ที่ 8-bit และมันยังคงมีความยุ่งยากตามหลักรูปร่าง แต่เนื่องจากเซนเซอร์ความละเอียดที่สูงขึ้น มันมี rolling shutter ที่ค่อนข้างแย่และแบตเตอรี่ที่หมดไวขึ้น มันใช้เวลามากกว่า 1 ชั่วโมงในการชาร์จให้เต็ม 1 ครั้งและมันก็ยังสามารถให้คุณสามารถใช้การชาร์จผ่าน USB-C ได้ซึ่งมันเยี่ยมมาก และยังมีความสามารถในการเชื่อมต่อ SSD ภายนอกและบันทึก RAW 12-bit
โครงสร้าง
ข้อดีของกล้องนี้หนึ่งอย่างคือ วัสดุและคุณภาพของโครงสร้างกล้องตัวนี้ซึ่งทำได้อย่างดีมาก มันมีความแข็งแรงด้วยความทนทานที่อดเยี่ยมและการตอบสนองต่อการสัมผัส ตั้งแต่การทดลองใช้งานมายังไม่ได้พบกับปัญหาเครื่องร้อนเกินไป ซึ่งเป็นที่น่าประทับใจมากเมื่อคุณสำรวจการครอบตัดซูมและเทคนิคการสุ่มตัวอย่างใหม่บนเซนเซอร์ 61MP
รูปลักษณ์ตัวกล้อง
กล้องตัวนี้เป็นกล้องขนาดเล็กที่ แต่เราไม่ค่อยเข้าใจนักว่าทำไมกล้องตัวนี้ถึงถูกทำมาให้มีขนาดเล็ก เพราะการที่มันทีขนาดเล็กทำให้ขาดบางอย่างไปเช่น คุณไม่สามารถเข้าถึงแบตเตอรี่หรือ SD card ได้เมื่อคุณติดตั้งขาตั้งกล้องไว้ และคุณไม่สามารถใช้เลนส์ mount ขนาดใหญ่โดยที่ไม่มี riser plate ใต้กล้องมิฉะนั้นเลนส์จะชนกับแผ่นขาตั้งกล้อง
พวกเขาใช้ Micro HDMI ที่ไม่ค่อยดีนัก ไม่มีช่องเสียบหูฟังโดยไม่ต้องเพิ่ม EVF module และถ้าคุณเพิ่ม EVF คุณก็จากไม่สามารถใช้งานพอร์ต HDMI ได้ เพราะมันจะบังพอร์ตด้านนั้นของคุณทั้งหมดเลย และมีปุ่มไม่เพียงพอที่แม้แต่จะเอาไว้ตั้งค่าการเปิดรับแสงที่เหมาะสมโดยที่ไม่ต้องไปที่เมนู ซึ่งเมนูก็ไม่ได้ทันสมัยมากนัก
รูปแบบทั่วไปโดยทั่วไปเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละบุคคลว่าชอบแบบไหน แต่เราพบว่ากล้องนี้มีความยุ่งยากในการใช้งาน มันมีความคล้ายกับกล้อง fp แบบดั้งเดิมมากๆ ดังนั้นหากคุณชอบกล้องตัวนั้น คุณก็อาจชอบตัวนี้ด้วยเช่นกัน
หน้าจอ
ส่วนหนึ่งที่เราชอบในกล้องนี้คือ หน้าจอ เนื่องจากเราชอบที่พวกเขาใส่คลื่นเสียงบนหน้าจอแสดงผลด้วยและการที่มีสองขนาดสำหรับพวกเขา เราชอบคุณสมบัติของการเข้าใช้งานโฟกัสแบบ manual ได้เลยทันที และเราคิดว่าหน้าจอใช้งานได้ดีในที่ร่ม มันสว่างและสะอาด แต่ในความเป็นจริงนั้นมันมีข้อจำกัดความสว่างในการใช้งานกลางแจ้งซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาเล็กน้อย
คุณภาพของรูปภาพ และการบันทึก
บางทีเมื่อคุณลองถ่ายภาพจากกล้องนี้อาจจะทำให้คุณเลือกปัญหาต่างๆ ของมันไปได้ เพราะมันให้ภาพที่ยอดเยี่ยมมาก หากคุณชอบกล้องขนาดเล็กนี้และคุณต้องการเพียงบันทึกสู่ SD card ภายนอกโดยการใช้รูปภาพการสุ่มตัวอย่างคุณอาจจะต้องศึกษาสักหน่อยเนื่องจาก หากคุณต้องการรูปภาพที่มีความแม่นยำของสีที่เหมาะสม คุณอาจจะเลือกใช้ชุดสี “Neutral” แต่คุณก็จะติดอยู่ที่ภาพ 8-bit ด้วยประมาณ 7.8 stops ของช่วงไดนามิกซึ่งค่อนข้างแย่ หรือบางทีคุณอาจจะเปลี่ยนไปที่ตั้งค่า “Color Off” ซึ่งจะเป็นเหมือนกับ pseudo-Log profile หลังจากนั้นมันจะทำให้ความแม่นยำของสีคุณหายไปเรียบร้อย แต่คุณยังคงได้ที่ 8-bit และคุณจะได้รับภาพที่คมชัดมากเกินไปที่คุณไม่สามารถลดมันได้เนื่องจากการควบคุมเสียหายเพราะคุณใช้โหมด Color Off