
นี้เป็นกล้อง a7R V และเป็นกล้องแบบ full frame ของ Sony มันมีเซนเซอร์เหมือนกับกล้อง a7R IV ด้วยแรงบันดาลใจจากวิดีโอ alpha 1 รวมมาไว้ในตัวกล้อง a7 IV แต่ด้วยหน้าจอที่มีกลไกพับแบบใหม่ที่เราไม่เคยเห็น
หน้าจอ

ดังนั้นอาจจะเสี่ยงต่อกลไกหน้าจอนี้เกินไป มันคล้ายกับหน้าจอของกล้อง Panasonic S1H ในการที่จะรวมกับที่สามารถเอียงเข้ากับหน้าจอแบบ fully articulating แต่อย่างไรก็ตาม มันไม่เหมือนกับหน้าจอของ S1H ซะทีเดียวเพราะนี้ค่อนข้างบางมากกว่า และมันไม่ได้พับขึ้นได้อย่างเดียวเท่านั้นแต่มันสามารถพับลงได้ด้วย ซึ่งเป็นข้อด้วยที่สำคัญของหน้าจอกล้อง S1H
ในความเป็นจริงแล้ว หน้าจอนี้ทำมาได้อย่างสมบูรณ์แบบจากตัวกล้อง ไม่เพียงแต่ปรับปรุงการจำกัดช่วงของการพับหน้าจอเท่านั้น แต่มันยังสามารถช่วยกระจายความร้อนได้อีกด้วยและถึงแม้มันจะห่างจากตัวกล้อง แต่มันก็ยังคงให้ความแข็งแรงที่เพียงพออยู่ดี นอกจากนี้มันยังสามารถพลิกออกจากตัวกล้องได้อีกด้วย ซึ่งเป็นหน้าจอโดดเด่นมากทีเดียว
โครงสร้างและคุณสมบัติ

ตัวกล้องโดยทั่วไปให้ความรู้สึกเหมือนกับกล้อง a7 IV ยกเว้นการมีพอร์ตสำหรับการต่อแฟลช ด้านหลังมีฝาปิดสำหรับช่อง HMDI แบบ full-size แต่ก็ยังมีส่วนที่เหมือนกัน a7 IV กล้องนี้ยังสิ่งที่ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาอยู่บ้าง ดังนั้นการถ่ายภาพ/ วิดีโอ/ S&Q lever เมนูใหม่ด้วยการชดเชยระบบโฟกัส แผนที่โฟกัส, ง่ายต่อการ streaming 1080p60 ผ่าน USB-C, สี 10-bit, S-Cinetone และแม้แต่หน้าการควบคุม glance ตัวใหม่ที่เราจะเห็นได้บน firmware ของกล้อง FX30 และ FX3 2.0 รวมถึงองค์ประกอบบนหน้าจอแสดงผลวิดีโอใหม่ในกล้อง FX30 ที่จัดเฟรมรอบภาพ 16×9 ได้ดีกว่าซึ่งทำได้น่าประทับใจมาก อย่างสิ่งที่สามารถมองเห็นได้อย่างง่ายดายนั้นคือ แบตเตอรี่โดยที่ไม่เกะกะทั้งหน้าจอด้วยองค์ประกอบที่เหลือทำให้เกิดความแตกต่างอย่างมาก
และมันยังมาพร้อมกับตัวป้องกันเซนเซอร์ชัตเตอร์ที่เราสามารถเห็นได้ตามกล้องรุ่นล่าสุดของ Sony เช่นกัน ซึ่งกล้อง a7R V มีทุกอย่างที่ Sony ใส่กล้องที่แตกต่างกันในปีสองปีล่าสุดนี้ ซึ่งทั้งหมดนี้ยอดเยี่ยมมาก และมันยังคงเป็นเซนเซอร์ 61MP เหมือนกับกล้อง a7R IV รุ่นก่อนหน้าแต่ด้วยระบบโฟกัสอัตโนมัติตัวใหม่และ IBIS ที่ได้รับการปรับปรุงแล้ว มันยังใช้การประมวลผลจาก alpha 1 ตัวใหม่อีกด้วย ซึ่ง Sony อ้างว่ามันเร็วกว่าในกล้อง a7R IV 8เท่า
โหมดการบันทึก

การทำ Sony อ้างว่ามันเร็วกว่าในกล้อง a7R IV 8เท่า ซึ่งนั้นหมายถึงว่าเราได้รับตัวเลือกในการบันทึกที่เพิ่มขึ้นด้วย อย่างที่กล่าวว่า เรามี 10 bit ทั้งกระดานแล้วดังนั้นเราสามารถบันทึกได้จนถึง 8K ที่ 24เฟรม/วินาที คุณสามารถบันทึก 4K ที่ 60เฟรม/วินาทีได้อีกด้วย และสุ่มตัวอย่างจาก 4K ที่ 24 และ 30p ในโหมดครอบตัด APS-C ซึ่งสิ่งที่ทำให้เราเห็นว่ามันต่างจากกล้องรุ่นก่อนหน้าคือ 8K ที่มันสามารถทำได้อย่างดีเยี่ยม
รายละเอียดและความละเอียด

หลังจากที่เราได้ทดลองแล้วพบว่าทั้งสองโหมดนั้นดีกว่าที่คิดไว้ เนื่องจากเมื่อดูจากภาพที่ถ่าย 8K จะพบว่าเมื่อซูมเข้าไปก็ยังเห็นว่าภาพยังคงเก็บรายละเอียดได้เป็นอย่างดี และเมื่อดูจากการสุ่มตัวอย่าง 6.2K การบันทึกจาก APS-C ก็ยังคงทำได้ดีเช่นกัน และเมื่อเปลี่ยนการบันทึกไปที่ 4K24 แบบ full frame เราจะเห็นกลุ่มพิกเซลที่ใหญ่ขึ้นแต่มันก็ยังคงเก็บรายละเอียดได้อยู่ดี และสุดท้ายที่ 4K60 ซึ่งเราสามารถเห็นข้อแตกต่างได้อย่างชัดเจนว่ารายละเอียดมันเริ่มหายไป แต่เรื่องความแตกต่างของสีก็ยังสามารถแยกออกได้อย่างชัดเจน
ความร้อนและอายุการใช้งานแบตเตอรี่

สำหรับการทดลองในครั้งนี้ เราได้ชาร์จแบตเตอรี่ FZ100 จนเต็มเป็นแบตเตอรี่แบบเดียวกับที่คุณสามารถหาได้บนกล้อง mirrorless แบบ full frame ของ Sony ในปีสองปีล่าสุดที่ผ่านมาและอุณหภูมิในการทดลองอยู่ที่ประมาณ 23 เซลเซียส และเกณฑ์อุณหภูมิของกล้องสามารถตั้งที่ high และหน้าจอก็จะถูกดึงออกมาจากตัวกล้อง
สำหรับ 8K24 เราสามารถบันทึกได้ที่ประมาณ 1 ชั่วโมง 34 นาทีก่อนที่แบตเตอรี่จะหมดและไม่มีการเตือนเครื่องร้อนแต่ตัวกล้องก็เริ่มร้อนเมื่อสัมผัสทำให้ไม่สามารถถือกล้องได้เป็นระยะเวลานาน ใน 4K60 เราใช้ได้ที่ 2 ชั่วโมง 25นาทีก่อนแบตเตอรี่จะหมดและไม่มีการเติมความร้อนเช่นเดิมแต่เมื่อสัมผัสมันมีความเย็นกว่า 8K24 เมื่อถือใช้งาน และสำหรับการสุ่มตัวอย่าง APS-C
ใน 4K24 มันใช้งานได้จนแบตเตอรี่หมดอยู่ที่ 2 ชั่วโมง 10 นาทีและไม่มีการเตือนความร้อนเหมือนเดิม แต่ก็อุ่นกว่า 4K60 และสุดท้ายคือ full frame 4K24 ให้การใช้งานที่นานกว่าอันอื่นโดยอยู่ที่ 2 ชั่วโมง 33 นาที ไม่มีการเตือนความร้อนและแทบจะไม่ร้อนเลยเมื่อสัมผัส แต่ทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อม ที่คุณใช้ด้วยดังนั้นมันก็อาจจะส่งผลที่ต่างกันไป
สรุป

กล้องนี้เป็นกล้องที่ยอดเยี่ยมเท่าที่เราได้ลองใช้ Sony มาเลยทีเดียว แต่เมื่อถามถึงความคุ้มค่ากับราคา อาจจะทำให้คิดนิดหน่อย เพราะคุณสามารถหาคุณภาพที่ยอดเยี่ยมที่คล้ายแบบนี้ได้ในราคาที่ประหยัดมากกว่านี้และมีตัวเลือกที่หลากหลายเช่นในกล้อง a7 IV และ FX30 และถ้าคุณอยากได้ความเร็วเต็มรูปแบบในราคาเท่านี้ a1 ก็ดูจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม แต่ถ้าคุณถามหากล้องที่สามารถให้ค่าชดเชยโฟกัสได้และมีการตรวจจับ AF สำหรับตาสัตว์สำหรับ firmware ในวิดีโอที่ให้มากกว่ากล้องรุ่นอื่น ๆ คุณอาจจะต้องเลือกกล้อง a7R V ตัวนี้