
คุณมีกล้องดิจิทัลที่เปิดโหมดอัตโนมัติตลอดเวลาหรือไม่? ถ้ามี งั้นคุณก็ไม่ใช่คนเดียวแล้วละ ช่างภาพมือสมัครเล่นส่วนใหญ่ไม่รู้วิธีการใช้งานกล้องราคาแพงให้เต็มศักยภาพของมัน นั้นเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาเกือบจะถ่ายรูปโดยเฉลี่ยที่พวกเขาไม่ได้ภูมิใจในมันจริงๆ แต่เรามีทางที่ช่วยคุณได้
ฉะนั้นในที่นี้เรามี 6 เคล็ดลับง่ายๆ ของกล้องที่จะช่วยให้คุณหลุดจากโหมดอัตโนมัติได้และช่วยคุณให้ได้ภาพถ่ายที่น่าทึ่ง ที่ใครหลายคนอาจไม่เชื่อว่าถ่ายจากกล้องดิจิทัล เรารู้ว่ามันอาจจะดูเกินจริงไปหน่อย และหากคุณมีปัญหากับด้านเทคนิคของกล้อง คุณอาจจะมีความสงสัยเล็กน้อยและเราเข้าใจเป็นอย่างดี ดังนั้นเราจึงได้ทำ 6 เคล็ดลับง่ายๆ ของกล้องที่ช่างภาพมืออาชีพใช้กันเพื่อการได้ภาพถ่ายที่มีคุณภาพสูงสำหรับลูกค้าของพวกเขาในทุกสถานการณ์การถ่ายภาพ
ดังนั้นเราอยากให้คุณมั่นใจในการหยุดในโหมดอัตโนมัติตลอดไป คุณจะสามารถเลือกการตั้งค่ากล้องที่สมบูรณ์แบบสำหรับการถ่ายภาพสำหรับการชดเชยแสงในฉากการถ่ายภาพใดๆ ได้อย่างรวดเร็วมาก
1. ควบคุมความสว่างของภาพด้วยการชดเชยแสง

ควบคุมความสว่างของภาพด้วยการชดเชยเป็นคุณสมบัติของกล้องที่มีประโยชน์อย่างมากที่จะให้คุณได้ควบคุมความสว่างและความมืดของภาพถ่ายของคุณ สิ่งที่คุณทำได้คือทำให้ภาพถ่ายของคุณสว่างกว่าปกติสำหรับลักษณะภาพถ่ายที่สดใสและสีเข้มขึ้นเพื่อสร้างอารมณ์ที่หลากหลายมากขึ้น
อย่างแรกคือการเลือกฉากในการถ่ายที่คุณชอบ แต่คุณรู้สึกว่ามันสว่างหรือมืดเกินไป แล้วลองถ่ายมันภาพนั้น 1 ภาพ เมื่อถ่ายแล้วพบว่ามันมืดเกินไป ให้คุณเข้าไปปรับแต่งระดับความสว่างโดยใช้การชดเชยแสง เราจะปรับจากโหมดอัตโนมัติไปที่แสดงโหมดโปรแกรมโดยการหมุนแป้นไปที่ตัว P ถ้าคุณใช้กล้อง Canon โดยส่วนใหญ่คุณต้องกดปุ่ม Q บนด้านหลังเพื่อเข้าไปในหน้าปรับแสง หรือมองหาสัญลักษณ์ +/- ดังนั้นตอนนี้คุณสามารถปรับแสงตามที่คุณเห็นว่าเหมาะสมตามภาพถ่ายของคุณได้แล้ว
2. ใช้ ISO ในการเพื่อศักยภาพในการถ่ายภาพในที่แสงน้อย

ตอนนี้คุณจะค้นพบว่า ISO สามารถช่วยในการบันทึกภาพได้เมื่อวัตถุกำลังเคลื่อนที่ โดยปกติแล้ว IS มีขนาดอยู่ที่ 100-3200 หรือมากกว่านั้น มันแสดงถึงความสามารถของกล้องในการดูดแสงที่กล้องของคุณให้กลายมาเป็นไวต่อแสงมากขึ้นด้วยตัวเลข IS ที่สูงขึ้นที่สามารถคุณในการถ่ายภาพได้ดีขึ้นแม้ในที่ดีแม้ในที่แสงน้อย
เมื่อใช้งานในการถ่ายภาพตอนกลางคืนหากคุณอยากได้ภาพถ่ายที่เบลอหรือมัน ให้ปรับ IS ไปที่ต่ำกว่า 100 หรือหากคุณอยากได้ภาพที่เป็นปกติให้คุณตั้งค่า ISO ที่ตั้งแต่ 100-1600 คุณก็จะได้รับภาพที่คมชัดในยามค่ำคืน
3. การใช้รูรับแสงทำให้ฉากหลังเบลอ

โดนส่วนมากโหมด 90% ที่เรามักใช้คือโหมดทำให้ฉากหลังเบลอ โดยจริงๆ แล้วในกล้องทั่วไปก็มีโหมดกึ่งอัตโนมัติที่ทำให้คุณได้รับภาพอันสวยงามที่มีฉากหลังเบลออย่างละมุน และเราเคยต้องการถ่ายภาพ portraits โดยมีฉากหลังที่ละมุนหลังบุคคล แต่กล้องไม่เคยทำได้แบบภาพที่เราเห็นบนนิตยสาร
ดังนั้นการปรับรูรับแสงให้ดีจะเปลี่ยนวิธีที่คุณใช้ถ่ายภาพผู้คนไปตลอดกาล เพราะคุณสามารถควบคุมได้ว่าคุณอยากจะให้ฉากหลังคุณเบลอแค่ไหน โดยการเปลี่ยนโหมดบนแป้นหมุนไปที่ AV สำหรับกล้อง Canon และกล้องรุ่นอื่นๆ ขั้นตอนต่อมาคือการเปลี่ยนรูรับแสง ที่เป็นวงกลมขนาดเล็กปรับได้ เปิดเลนส์และปิดตามความต้องการของคุณว่าต้องการฉากหลังเบลอมากน้อยแค่ไหน ซึ่งการเปิดรูรับแสงขนาดใหญ่ก็จะให้ฉากหลังที่เบลอมาก แต่การเปิดรูรับแสงน้อยก็จะให้ฉากหลังที่เบลอไม่มากหรือไม่เบลอเลย
4. ใช้รูรับแสง F/8 เพื่อให้ได้ภาพถ่ายที่มีคุณภาพโดยรวมยอดเยี่ยม

ทำไม f/8 ถึงเป็นตัวเลข f-stop ที่ช่างภาพหลายชอบใช้ ซึ่งประโยชน์ของ f/8 เป็นรูรับแสงที่ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างน่าเหลือเชื่อ เพราะจะทำให้ภาพถ่ายของคุณมีความคมชัดมากซึ่งทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบสำหรับช่างภาพและผู้คนต่างๆ จากกล้องของคุณ f/8 ถือว่าเป็นเลนส์ที่มีรูรับแสงเป็นสากลที่ทำงานสำหรับการถ่ายภาพฉากที่มากมายแตกต่างกัน และถ่ายภาพเป็นกลุ่มโดยภาพคมชัดและโฟกัสที่สมบูรณ์แบบ
5. จับภาพภูมิทัศน์ที่คมชัดโดยการใช้เลข f/stop ที่สูง

คุณจะเห็นภาพภูมิทัศน์มากมายที่บางทีอาจไม่ได้โฟกัสที่คมชัดดีเพียงพอมากนัก ปัญหาคือ การใช้เลข f-stop สูงซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังของภาพถ่ายภูมิทัศน์นั้นดีและคมชัด สิ่งสำคัญที่คุณต้องใช้อีกหนึ่งสิ่งในการถ่ายภาพภูมิทัศน์คือ ขาตั้งกล้องเพื่อกันภาพเบลอ
โดยหากต้องการถ่ายภาพภูมิทัศน์ในตอนกลางวันที่มีแสงจ้า ให้ใช้ f/16 ซึ่งจะทำให้คุณได้ภาพถ่ายในโฟกัสที่คมชัดอย่างยอดเยี่ยม ดังนั้นคุณสามารถใช้ในตัวเลข f-stop ตั้งแต่ f/11 -22 ซึ่งจะให้คุณได้ภาพถ่ายที่คมชัดกว่าการใช้ตัวเลขที่ต่ำ
6. การใช้ชัตเตอร์ในการถ่ายภาพน้ำตกอย่างน่าทึ่ง

คุณอาจจะเคยเห็นภาพน้ำตกในนิตยสารที่ดูสวยงามและลื่นสบายตา, อาจจะเคยเห็นน้ำพุที่สวยงาม หรือภาพตรงสะพานที่สะท้อนบนแม่น้ำที่สวยงาม โดยการใช้ชัตเตอร์ในโหมด droplet ที่ให้คุณสามารถสร้างสรรค์ภาพถ่ายที่จับภาพน้ำที่สะอาดตาและดูเรียบเนียน
โดยการใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่กำหนดไว้อย่างชัดเจนคือระยะเวลาที่ชัตเตอร์เปิดแล้วปิดซึ่งความเร็วของชัตเตอร์สูงจะหยุดวัตถุที่เคลื่อนไหวเร็วได้อย่างพอดีซึ่งจะทำให้ได้ภาพที่คมชัดและเนียนตา และการเปิดปิดชัตเตอร์ที่ช้าจะทำให้วัตถุที่กำลังเคลื่อนที่เร็วนั้นเบลอได้