ก่อนหน้านี้ Panasonic ได้มีการเปลี่ยนแปลงกล้องซีรีส์ mirrorless GH5 ด้วยการอัปเกรดเวอร์ชัน ไปเป็นอีกชื่อของ GH5 Mark II แต่อาจจะต้องบอกกันเลยครับว่ามันไม่รู้สึกถึงความแตกต่างอะไรสักเท่าไหร่เมื่อได้เห็นตัวจริง
ถึงอย่างไรก็ดี GH5 Mark II ก็ไม่ได้เหมือนกันกับ GH5 ฉบับ Original มากขนาดนั้น แต่อย่างไรมันก็ยังคงถือได้ว่าเป็นกล้องที่ได้รับการอัปเกรด ซึ่งผมจะพาทุกท่านไปดูกันครับ ว่าในการอัปเกรดกล้องครั้งนี้ GH5 Mark II และ GH5 ฉบับ Original มีอะไรที่แตกต่าง เพิ่มเข้ามาบ้าง เผื่อว่าบางคนนั้นกำลังตัดสินใจที่จะหากล้องติดมือไว้สักตัว ซึ่งเราได้รวบรวมข้อแตกต่างไว้ให้แล้วในบทความนี้กับ Panasonic Lumix GH5 Mark II vs Lumix GH5: มีอะไรเปลี่ยนไปบ้างมาดูกัน
Design และรายละเอียดภายนอก
-ทั้งคู่: ตัวเครื่องได้รับการซีลกันน้ำและกันฝุ่น
-ทั้งคู่: มี Dual SD card (UHS-II เหมือนกัน)
ทั้งคู่: พอร์ทขนาด 3.5 มม. สำหรับไมค์และหูฟัง
-GH5: เพิ่ม V-Log L-Log สำหรับซอฟต์แวร์ที่อัปเกรด / GH5 M2: มีการติดตั้ง V-Log แบบมาตรฐานปัจจุบัน
-GH5: 3.2in, 1.6 dot articulating LCD / GH5 M2: 3.1in 1.8m-dot articulating LCD
-GH5: แบตเตอรี่ DMW-BLF19 (1860mAH) / GH5 M2: DMW-BLK22 (2200mAH, ชาร์จ USB-C)
หากเปรียบเทียบจากข้างต้นแล้ว แล้วคุณจะสังเกตว่าทั้งกล้องท้องสองตัวนั้นมีความคล้ายคลึงกันมากเพียงใด และมีการปรับ เปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น อย่างในด้านของ รูปทรง การออกแบบ รวมถึงปุ่มกดและแป้นหมุนที่ทั้งหมดอยู่ในตำแหน่งเดิม แต่ถึงอย่างไรก็ยังคงมีการเปลี่ยนแปลงด้านภาพลักษณ์ถึงแม้จะเล็กน้อยก็ตาม
ที่ปุ่ม Cinema ได้มีการปรับดีไซน์ให้เป็นสีแดง บวกกับมีวงแหวนสีแดงรอบๆ ปุ่มของการเปลี่ยนโหมดการถ่ายภาพด้วย หากใครดูดีๆ ดีไซน์นี้น่าจะได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Lumix S5 เพราะเรียกได้ว่าถอดแบบมาเป๊ะๆ มีเพียงติดเครื่องหมาย Mark II ที่ถูกใช้เพื่อระบุรุ่นของกล้อง ที่บอกถึงความแตกต่าง
อีกหนึ่งความแตกต่างเล็กน้อยที่เราสังเกตเห็นคือปุ่มฟังก์ชันที่ปรับแต่งได้ ไม่มีข้อความกำกับ ‘Fn’ อีกต่อไป แต่มีการปรับรูปแบบเป็นสัญลักษณ์แทนการใช้ข้อความดังกล่าวบนปุ่ม สำหรับสัญลักษณ์ที่มาแทน ‘Fn1’ นั้นตอนนี้คือตัว Switch Colour ‘Fn5’ คือปุ่ม LVF ที่สำคัญ และถ้าคุณนั้นได้ลองสังเกตตัวกล้องดูให้ดี คุณจะเห็นว่ากล้องตัวนี้แทบจะใช้สัญลักษณ์แทนข้อความบนตัวบอดี้ทั้งหมด
กล้องทั้งสองตัว มีหน้าจอแบบ articulating ที่ให้ความชัดเจน สามารถพับออกไปด้านข้างได้ และมีฟีเจอร์ touch-sensitive controls (เป็นฟีเจอร์ที่เพิ่มความไวสัมผัสหน้าจอ) สำหรับการโฟกัสและปรับการตั้งค่าต่างๆ ความแตกต่างอีกอย่างที่ทำให้หน้าจอ 2 ชนิดนี้มีความแตกต่างกันแบบสิ้นเชิงเลยคือ ดีไซน์กรอบด้านบนและด้านล่างที่เว้นพื้นที่เพียงเล็กน้อย โดยอยู่ในขนาด 3.2 นิ้ว vs 3.0นิ้ว แต่ให้ความคมชัดที่มากกว่านั่นเอง
และด้านข้างของกล้องทั้งสองมีช่องพอร์ตด้านซ้ายเหมือนกัน นั่นคือมีพอร์ตขนาด 3.5มม. สำหรับไมค์และหูฟัง, ช่อง HDMI เต็มขนาดและพอร์ต USB-C แต่มีหนึ่งสิ่งที่แตกต่างนั้นคือ คุณสามารถชาร์จแบตเตอรี่ของ M2ได้ ซึ่งมีความจุที่ใหญ่กว่า เหมือนกับที่เคยใช้ใน Lumix S1 โดยใช้พอร์ตนี้ ไม่ใช่สำหรับการถ่ายโอนข้อมูลเท่านั้น ทางด้านขวา ทั้งสองรุ่นมีช่องสำหรับ SD card สองช่องซึ่งมีฝาปิด กล้องทั้งสองตัวสามารถรับรอง SDXC UHS-II speed class3 ได้เหมือนกันอีกด้วย
ความสามารถของเซนเซอร์วิดีโอ
-GH5: Cinema 4K 10-bitที่24fps, 4K 8-bit 60fps /GH5 M2: Cinema 4K, 4K สูงสุดที่ 10bit 60fps
-GH5 M2: Cinema 4K/ 4K60p/ 50p 4:2:2 10-bit HDMI out with simultaneous 4:2:0 internal recording
-ทั้งคู่: เซนเซอร์ Micro Thirds 20.3MP/ GH5 M2: เพิ่มการเคลือบกันแสงสะท้อน (AR)
-ทั้งคู่: การป้องกันการสั่นไหว 5 แกน (ในตัวและเลนส์ dual system)
สิ่งที่เหมือนกันคือด้านข้างของกล้องทั้งสองตัว มีเซนเซอร์และใช้ mount แบบ Micro Four Thirds 20.3MP แต่เมื่อเทียบแล้ววิดีโอของ M2 มีประสิทธิภาพ และให้ความละเอียดที่ดีกว่า จากเทคโนโลยีที่ใหม่กว่า
ซึ่งในกล้อง Mark II นั้นสามารถถ่ายวิดีโอ 4K (4096×2160) ที่ 4:2:0 10-bit สูงสุดถึง 60fps หรือใน DCI 4K (3840×2160) ที่ 4:2:0 สูงสุดถึง 60fps ภายในทั้งหมดและไม่จำกัดการบันทึก ซึ่งคือข้อดีที่สุด ที่ทำให้การถ่ายวิดีโอต่อเนื่องและไหลลื่น
โดยความละเอียดหลักของทั้งคู่คือ 20Mbps แต่ถ้าคุณลดความละเอียดให้ต่ำลงถึง 30 หรือ 24fps คุณจะสามารถรับถึง 400Mbps 10-bit และคุณสามารถถ่าย Anamorphic ใน 6K สูงสุดถึง 30fps หรือ 4K สูงสุดถึง 60fps
กล้อง GH5 ดั้งเดิมเพิ่มได้สูงสุดแค่ 24fps ที่ความละเอียด Cinema 4K ที่ 10-bit และการบันทึกเพียง 8-bit ที่ 4K/60 ในวิดีโอระยะสั้น ซึ่งแน่นอนว่ามีการสะดุดเล็กน้อยในแง่ของการจับภาพ แต่ดูยังไงก็ไม่คุ้มค่า โดยเฉพาะกับใน GH5 M2 ที่มาพร้อมกับ V-Log L-Log ที่ติดตั้งไว้ล่วงหน้า ไม่เหมือน GH5 ตัวดั้งเดิมที่ต้องจ่ายเพื่ออัปเกรด ทำให้การใช้กล้อง GH5 รุ่นแรกกลายเป็นที่ถกเถียง พูดถึงในแง่ลบอย่างมาก
นอกจากนี้ระบบออโต้โฟกัสของรุ่น M2 นั้นมีเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ากว่าเล็กน้อย เพราะไม่เพียงแค่ให้การตรวจจับใบหน้าและดวงตาเหมือนกับ GH5 แต่ยังเพิ่มการตรวจจับร่างกายและสัตว์มาให้ด้วย ทั้งสองรุ่นมีชิปเซนเซอร์ป้องกันการสั่นไหวแบบ 5 แกน และรับรอง Dual IS2 ด้วยเลนส์กันสั่น จุดนี้เลยถือเป็นความชอบของ GH5 ไปแบบไม่ต้องสงสัยเพราะประสิทธิภาพดีจนเป็นที่กล่าวถึงกันอยู่แล้ว
คุณสมบัติและประสิทธิภาพ
-GH5 M2: เพิ่มการสตรีมสดแบบไร้สาย
อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ Panasonic GH5 Mark II ถูกพูดถึงกันอย่างมาก คือการสตรีมสดแบบไร้สายได้โดยความละเอียดสูงสุดของภาพเทียบได้กับระดับ Full HD โดยการใช้ NTSC หรือมาตรฐาน PAL สูงสุดถึง 60fps หรือ 50fps ตามลำดับ และนั่นทำให้ Panasonic รุ่นนี้ขายดีแบบที่ไม่ต้องสืบเลยครับ
ราคา
-GH5 M2: 66,491฿
-GH5 ราคาเปิดตัว: 44,990฿
ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสถานที่ที่คุณไปหา และจุดจัดจำหน่ายกล้อง GH5 แน่นอนว่าราคาไทยนั้นบวกเพิ่มเช่นเคย โดยเปิดตัวที่ประมาณ 44,990฿ ในขณะเดียวกันGH5 M2 จะมีราคาจะสูงกว่าเล็กน้อย โดยมีราคาขายที่ตั้งไว้ที่ 66,491฿ แค่ตัวกล้องไม่รวมเลนส์ และถ้าคุณเลือกซื้อพร้อมกับชุดเลนส์คุณก็จะได้รับชุดเลนส์ 12-60 มม. ตัวเดียวกันกับรุ่นแรกนั่นเอง