เมื่อเราพูดถึงกล้องกันน้ำ มีกล้องหลายประเภทที่เราสามารถหมายถึงได้ เราได้แบ่งออกมาให้ได้อ่าน และเพิ่มคำอธิบายสั้นๆ ในบทความนี้ให้ได้ดูกัน เพราะกล้องใต้น้ำก็มีหลายแบบให้เราเลือก
กล้อง Compact ก็เหมือนกันกล้องคอมแพคทั่วไปทุกอย่างเลย แต่เพิ่มระบบกันน้ำ ทำให้สามารถถ่ายภาพใต้น้ำได้อย่างดีนั่นเอง ข้อดีอีกอย่างคือมีเลนส์หลายรูปแบบ หลายตัวที่มีเลนส์ซูม และนี้เองถือได้ว่าเป็นประโยชน์ที่มากกว่ากล้อง action ทั่วๆ ไป ซึ่งมักจะมีเลนส์ที่มีความยาวโฟกัสที่เดียว อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้กล้องคอมแพคโดดเด่น คือมักจะมาจากสีที่สว่างสดใสของตัวกล้อง น่าใช้งาน เหมาะกับพกพา และข้อดีคือเมื่อกล้องตกน้ำ ทำให้ง่ายต่อการมองเห็น และการค้นหา
Action camera อย่าง GoPro เป็นกล้องขนาดเล็กกว่ากล้องคอมแพคกันน้ำ ดังนั้นจึงง่ายต่อการติดตั้งหรือสวมใส่บนสายรัดหรือหมวกกันน็อค เหมาะกับทุกการลุยมากกว่ากล้อง Compact แถมสเปกวิดีโอก็ดีกว่าด้วยความละเอียดวิดีโอ 4K และ frame rate ที่สูงกว่า
อย่างไรก็ตามครับ ความนิยมในกล้อง Compact ก็ยังคงมากกว่า หากได้นำไปเที่ยว ซึ่งวันนี้เราได้รวบรวม 5 กล้องดำน้ำที่ถือว่าเป็นที่นิยมอย่างมาก มาให้ได้ดูกันครับ
1. Olympus Tough TG-6
คุณสมบัติ
ชนิด: Compact
เซนเซอร์: 1/2.3นิ้ว
ความละเอียด: 12MP
เลนส์: 25-100มม (equiv.) f/2.0-4.9
LCD: 3นิ้ว, 1,040k dots
กันน้ำ: 15ม/50ฟุต
กันกระแทก: 2.1ม/7ฟุต
กันความเย็น: -10ºC/14°F
ความละเอียดวิดีโอ: 4K
สี: แดงหรือดำ
ข้อดี
+ บันทึกวิดีโอ 4K
+ ซูมแบบ optical ที่กว้างขวาง
ข้อเสีย
– กันน้ำได้เพียง 15เมตร
– รุ่นใหม่ และ ราคาสูง
กล้องรุ่น Olympus TG มีชื่อเสียงในตลาดในเรื่องความทนทาน ไม่เพียงแต่ที่มีความสามารถในการจัดการภาพในสภาพน้ำที่แสนยากลำบาก แต่ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีภาพและวิดีโอที่น่าประทับใจ การถ่ายภาพ RAW, วิดีโอ 4K และเพิ่มคุณสมบัติใหม่ที่ดีบางอย่าง เช่น ความละเอียดของ LCD ที่ได้รับการปรับปรุงและโหมด Underwater Microscope ใหม่สำหรับการเข้าใกล้ ให้ วิดีโอ 4Kที่ 30fps และเสนอ option การถ่ายวิดีโอ full HD 120fps สำหรับ super slow motion และยังมีเลนส์ซูมแบบ optical 25-100มม. ที่ช่วยให้คุณเข้าใกล้ได้มากขึ้น ในขณะที่กลไกการซูมภายในทำให้เลนส์ไม่ยื่นออกมาจากตัวกล้อง มีระบบป้องกันการกระแทก และเป็นหนึ่งในกล้องที่ไม่ซับซ้อน
2. Nikon Coolpix W300
คุณสมบัติ
ชนิด: Compact
เซนเซอร์: 1/2.3นิ้ว
ความละเอียด: 16MP
เลนส์: 24-120มม (equiv.) f/2.8-4.9
LCD: 3นิ้ว, 921k dots
กันน้ำ: 30ม/100ฟุต
กันกระแทก: 2.4ม/8ฟุต
กันความเย็น: -10ºC/14°F
ความละเอียดวิดีโอ: 4K
สี: เหลือง, ส้ม, ดำ หรือ ลายพราง
ข้อดี
+ การซูมทำออกมาได้ดี
+ กันน้ำได้ดีเยี่ยม
+ ตัวเลือกสี 4 สี
ข้อเสีย
– ค่อนข้างแพง
– ไม่มีการถ่าย RAW
ถ้าคุณคือนักดำน้ำที่เชี่ยวชาญ นี่คือทางเลือกที่ดีสำหรับกล้องดิจิทัลของคุณ Nikon W300 ถ่ายภาพที่ความลึกได้ถึง 30m ซึ่งมากกว่ากล้องกันน้ำอื่นๆ ที่มาพร้อมกัน barometer ที่ให้ข้อมูลใต้น้ำที่เป็นประโยชน์ ฟังก์ชัน Bluetooth ก็ใช้งานได้เช่นกัน และเข้ากันได้ดีกับเทคโนโลยี SnapBridge ของ Nikon เพื่อการถ่ายโอนภาพที่รวดเร็ว รวมทั้งยังสามารถถ่ายวิดีโอ 4K และกันกระแทกได้ถึง 2.4ม นั้นหมายความว่ามันได้การปกป้องเป็นพิเศษจากการกระแทก
3. SeaLife Micro 3.0
คุณสมบัติ
ชนิด: Compact
เซนเซอร์: 1/2.3นิ้ว
ความละเอียด: 16MP
เลนส์: 100 องศา FoV, 19มม-equiv., f/2.8
LCD: 2.4นิ้ว, 260k dots
กันน้ำ: 60ม/200ฟุต
กันกระแทก: N/A
กันความเย็น: N/A
ความละเอียดวิดีโอ: 4K 30fps สี: แดง
ข้อดี
+ กันน้ำได้ต่ำสุดถึง 60ม.
+ ปุ่มกดมีขนาดใหญ่
+ มีทั้งแบบมมีไฟและไม่มีไฟ
ข้อเสีย
– มีเซนเซอร์ภาพขนาดเล็ก
– หน้าจอเล็ก – ความละเอียดต่ำ
– ไม่มีซูม
กล้อง SeaLife เป็นตัวเลือกสำหรับกล้องใต้น้ำที่เหมาะที่สุด โดยไม่ต้องซื้อเคสใต้น้ำแยก และพอร์ต optical สำหรับกล้อง mirrorless และ DSLR ด้วยความสามารถที่กันน้ำลึกสุดถึง 200ฟุต/60เมตร แต่ก็ยังถ่ายภาพได้อีกด้วย ต้องยกความดีความชอบทั้งหมดไปให้กับเซนเซอร์ Sony-derived 16MP ที่สามารถถ่ายแบบ RAW file ได้ ตัวกล้องถูกปิดสนิทถาวรเพื่อป้องกันน้ำรั่วไหล และมีน้ำหนักเพียง 329 กรัม เท่านั้น ทำให้คุณสามารถนำกล้องตัวนี้ลงไปดำน้ำได้พร้อมกับคุณทุกเวลา อีกหนึ่งความน่าสนใจคือชุดอุปกรณ์ รวมทั้งไฟ LED ‘Sea Dragon’ อันทรงพลัง ซึ่งสิ่งนี้สามารถส่งออกอย่างน้อย 3000 lumens เพื่อให้ความสว่างใต้น้ำ
4. Ricoh WG-70
คุณสมบัติ
ชนิด: Compact
เซนเซอร์: 1/2.3นิ้ว
ความละเอียด: 16MP
เลนส์: 28-140มม (equiv) , f/3.5-5.5
LCD: 3นิ้ว, 230k dots
กันน้ำ: 14ม/45ฟุต
กันกระแทก: 1.6ม/5.2ฟุต
กันความเย็น: -10ºC/14ºF
ความละเอียดวิดีโอ: Full HD
สี: ส้ม หรือ ดำ
ข้อดี
+ การซูมที่เหมาะสม
+ มี ring light ในตัวที่มีประโยชน์
ข้อเสีย
– ไม่มีวิดีโอ 4K
– คล้ายกับ WG-60 มาก
กล้อง WG-70 ติดตั้งไป ring light รอบเลนส์ซึ่งทำหน้าที่เป็นทั้งไฟฉายและไฟมาโครเมื่ออยู่ใต้น้ำ แต่มีข้อดีบางอย่างในกล้องตัวนี้ที่อาจไม่ควรมองข้ามเลยอย่างโหมด microscope ช่วยให้โฟกัสได้ในระยะใกล้ถึง 1มม. และด้วยโหมดนี้ช่วยปรับปรุงให้ความละเอียดสูงสุดด้วย Handheld Night Snap จับภาพหลายภาพในพื้นที่มีแสงน้อย ได้อย่างต่อเนื่อง และผสมผสานเข้าด้วยกันเพื่อสร้าง composite ที่ปราศจากความพร่ามัว ทั้งหมดนี้อยู่ในกล้องที่มีการป้องกันอย่างหนาแน่น กล้องตัวนี้สามารถอยู่ในน้ำลึกได้ 14 เมตรได้ นานถึง 2 ชั่วโมง
5. Panasonic Lumix TS30/FT30
คุณสมบัติ
ชนิด: Compact
เซนเซอร์: 1/2.3นิ้ว
ความละเอียด: 16.1MP
เลนส์: 25-100มม (equiv) , f/3.9-5.7
LCD: 2.7นิ้ว, 230k dots
กันน้ำ: 8ม/26ฟุต
กันกระแทก: 1.5ม/5ฟุต
กันความเย็น: -10ºC/14ºF
ความละเอียดวิดีโอ: 720p (HD)
สี: น้ำเงิน, ดำ, ส้ม และแดง
ข้อดี
+ ราคาคุ้มค่ามาก
+ การออกแบบที่ชาญฉลาด
ข้อเสีย
– บ่งบอกอายุด้วยสเปกมากมาย
– เลนส์มีรูรับแสงกว้างสุดค่อนข้างแคบ
กล้อง Panasonic Lumix TS30/FT30 ไม่ใช่กล้องดิจิทัลกันน้ำรุ่นใหม่ แต่สิ่งที่ให้นั้นสมเหตุสมผลกับราคามาก แถมยังมีตัวกล้องที่เพรียวบางพอที่จะใส่ในกระเป๋ากางเกงได้อย่างสบายๆ แต่เมื่อใช้งาน คุณอาจจะต้องลงทุนกับสายรัดข้อมือเพื่อให้กล้องอยู่กับที่ ไม่หลุดมือตกหายไปในน้ำ TS30 เป็นกล้องกันน้ำที่ทนทานและใช้งานได้หลากหลายซึ่งพิสูจน์แล้วว่าเหมาะสมสำหรับการบันทึกเรื่องราวการผจญภัยทางน้ำของคุณ รวมทั้งแบบภาพนิ่งด้วย อย่างไรก็ตาม ด้วยคุณภาพความละเอียดวิดีโอที่ต่ำ 720p นั้นหมายความว่าถ้าคุณเป็นสายถ่ายวิดีโอคุณอาจจะไม่ประทับใจเท่าไรนักเมื่อได้ใช้กล้องตัวนี้