วันนี้เราจะมาพูดกันถึงเรื่องของการเปรียบเทียบของรายละเอียดทางเทคนิคจากผลลัพธ์ที่ได้ทดลองจากกล้อง Fujifilm X-H2 และ X-H2S และเลนส์อีกสองตัวซึ่งเราได้รวบรวมมาไว้ในนี้แล้ว
เปรียบเทียบภาพรวมของกล้องทั้งสองตัว
กล้อง X-H2S มีราคาอยู่ที่ประมาณ 88,000บาท สำหรับเซนเซอร์ APS-C แบบซ้อน 26MP ซึ่งกล้อง X-H2 มีราคาที่ถูกกว่าอยู่ที่ประมาณ 70,900 บาท สำหรับเซนเซอร์ความละเอียดสูง 40MP แต่ไม่ได้เป็นแบบซ้อน และทำให้ช้าลง สำหรับวิดีโอ นี้หมายถึงว่าคุณสามารถบันทึก 8K บนกล้อง X-H2 แทนที่จะเป็นเพียง 6K บนกล้อง X-H2S แต่มี rolling shutter ไม่ค่อยดีนัก และไม่มี 4K120 อีกหรือแม้แต่ 4K60 ที่มีปัญหา
คุณสามารถบันทึก 6K บนกล้อง X-H2 ซึ่งเป็นการสุ่มตัวเลือกจาก 8K แต่มันเป็น 16:9 และไม่มีโหมดเปิดในกล้องนี้ ไม่เหมือนกับการจับภาพ 6.2K 3:2 ของกล้อง X-H2S เซนเซอร์ที่แตกต่างกันเหล่านี้อาจให้ผลการโฟกัสอัตโนมัติที่แตกต่างกันด้วยเช่นกัน
สิ่งที่เหมือนกันระหว่างกล้อง 2 ตัวนี้
เราพบว่าพวกเขาทั้งสองมีความขาดที่คล้ายกัน แต่เพื่อความชัดเจนเราขอย้ำว่าฮาร์ดแวร์ที่เหลือเหมือนกันหมด ทั้งหน้าจอ, EVF, แบตเตอรี่, พอร์ต, เค้าโครง, ปุ่ม, แป้นหมุน และการใช้งานอุปกรณ์ที่เหมือนกัน เหมือนกับแบตเตอรี่ grip และพัดลมที่แนบมาด้วย และในเมนูซึ่งคุณก็น่าจะคุ้นเคยกับมันเกือบทั้งหมด รวมถึงตัวแปลงสัญญาณที่ซับซ้อนเกินไปที่ฉันจะพูดถึงและตัวเลือกโหมดบันทึก และความแตกต่างของความละเอียดสูงสุดที่โดดเด่น
เปรียบเทียบการซูมดิจิทัล
ด้วยอัตราเฟรมของ X-H2 สามารถให้สูงสุดที่ 30 เฟรม/วินาที นอกจากนี้ยังมีการซูมแบบดิจิทัลที่ชาญฉลาดอีกด้วย ซึ่งเมื่อคุณอยู่ในโหมดการสุ่มตัวอย่าง 4K HD คุณจะสามารถซูมได้สูงสุด 2x โดยการลดจำนวนความละเอียดที่คุณกำลังสุ่มตัวอย่างมากเกินไป ดังนั้นแทนที่จะเป็น 8K เมื่อคุณลดลง 2x มันเป็นเพียง 4K 1:1 เท่านั้นแต่คุณสามารถซูมที่ 1.5x และซูมเข้าไปอีกหน่อยได้ แต่การสุ่มตัวอย่างมากเกินไปจากความละเอียดโดยรวมลดลง มันเป็นการใช้งานที่ชาญฉลาดและทำงานได้ดีเยี่ยม
เปรียบเทียบช่วง ISO
กล้องสองตัวเหล่านี้มีช่วง ISO ที่ไม่เหมือนกัน ISO native ตัวที่สองก็ไม่เหมือนกันเช่นกัน กล้อง X-H2S อันนี้เป็นการคาดเดาจริงๆ เพราะมันยากที่จะเห็น แต่ถ้าคุณเพิ่มระดับ ISO ขึ้นไป คุณจะเห็นว่ามันสะอาดขึ้นเมื่อถึงจุดหนึ่ง บนกล้อง X-H2S ใน F-Log2 เราเชื่อคุณจะเห็นมันสะอาดขึ้นเมื่อมันถึง ISO 3200 บนกล้อง X-H2 มันดูจะเป็นแบบนั้นเหมือนกันแต่ที่ ISO 2000 หรือต่ำกว่านั้น มันเหมือนกันมีฐานที่ 1000 สะอาดขึ้นที่ 2000 อีกตัวคือ 1250 สะอาดขึ้นที่ 3200 การแพร่กระจายไม่เท่ากันแต่นั้นเป็นช่วงที่ดีสุดเท่าที่เราเคยเห็น แม้ว่าประสิทธิภาพจุดรบกวนโดยรวมจะบอบบางมาก็ตาม อาจจะมีจุดรบกวนมากบนกล้อง X-H2
ความละเอียดและรายละเอียด
ในโหมดภาพ 4KHQ ถ้าเราซูมเข้าไปในภาพที่ถ่ายได้มา เราสามารถดูได้ว่าพิกเซลได้รับการแก้ไขอย่างไรบนไทม์ไลน์ 4K และถ้าเราเปลี่ยนมาที่ภาพ 8K มันมีความคล้ายกันมากแต่มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย และภาพของกล้อง X-H2S ซึ่งมีลวดลายแตกต่างกันเล็กน้อยสำหรับวิธีจัดการกับพิกเซลและการสุ่มตัวอย่างมากเกินไปแต่มันก็ยังคงดีเยี่ยมเช่นกัน อาจจะแย่ลงเล็กน้อยบริเวณที่มีคอนทราสต์สูง
ถ้าเราเปรียบเทียบมันกับ 8K และ 8K ในเวอร์ชันการสุ่มตัวอย่างของกล้อง X-H2 เราจะอยู่ที่ 360% ถ้าคุณดึงออกมาสักหน่อย และดูที่รายละเอียดจากรูปภาพทั่วไป บอกได้ว่า 8K นั้นแทบไม่มีความหมายอะไรเลย เราบอกเสมอว่า เมื่อคุณชอบการสุ่มตัวอย่าง 6K หรืออะไรที่มากกว่านั้นมันยากที่จะบอก เว้นแต่ว่าคุณจะรีเฟรชที่ 200% แม้แต่พื้นฐานก็ใม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความละเอียดและรายละเอียดในกล้องตัวใดตัวหนึ่ง เนื่องจากมันค่อนข้างดีทั้งสองตัว
มาดูที่โหมดที่ไม่ได้สุ่มจากตัวอย่าง ซึ่งสามารถใช้ได้ที่ 4K60 ดังนั้นเมื่อดูจากภาพถ่ายที่ได้รับจะเห็นว่าภาพในมืดลง นี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นบนการถ่ายภาพ 4K60 บนกล้องนี้ เนื่องจากมันไม่มีโหมด 4K60 HQ ดังนั้นในกรณีนี้เมื่อดูจากโหมดการสุ่มตัวอย่างกับไม่มีการสุ่มตัวอย่าง คุณจะพบสิ่งที่น่าสนใจคือแถวแนวตั้งของพิกเซลชนิดรวมกัน ดังนั้นในโหมดนี้ ไม่มีการสุ่มตัวอย่าง โหมด non-HQ มันอ่านจากความละเอียดแนวนอนเหมือนกับความละเอียดแนวนอนของ 8K แต่ในความละเอียดแนวตั้งที่เส้นมันเกือบทึ่งหมดไม่ใช่เล่น 8K ที่สุ่มกลุ่มตัวอย่าง มันมีแต่ตัวอย่างจากเส้นของ 4K เท่านั้น ดังนั้นภาพที่คุณจะได้รับคือจำนวน 1:1 ของเส้น แต่ความละเอียดแนวนอนคือ 2:1 มันเหมือนกับการข้ามเส้น ข้ามไปในแง่ที่ว่าเรากำลังข้ามไปจำนวนหนึ่งหรืออาจจะเป็นการรวมกันล่วงหน้า แต่ถ้าเราไม่ได้ซูมเข้าไปภาพก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร
ดังนั้นเราจึงไม่กังวลเกี่ยวกับ binning algorithm ที่ดีกับการสุ่มตัวอย่างมากเกินไป เมื่อมันมาสู่ภาพมุมกว้างที่เต็มไปด้วยรายละเอียด เนื่องจากปัญหาหลักของ non-HQ mode ไม่ใช่การจำกัดความละเอียดแนวตั้ง ฉะนั้นหลังการทดสอบเราจึงพบว่ากล้องทั้งสองตัวทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ 4K60 ของกล้อง X-H2S นั้นดีกว่าเพราะความละเอียดแนวตั้ง, การครอบตัด และการไล่สี
เราหวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะช่วยคุณในการตัดสินในการเลือกกล้องให้เหมาะกับคุณที่สุด อย่างที่บอกการถ่ายภาพให้ดูดีที่สุดนั้นต้องถ่ายโดยใช้กล้องกับขาตั้งกล้องแบบคงที่ และถ่ายที่ 30p หรือต่ำกว่านั้น คุณอาจจะสามารถประหยัดเงินไปได้ถึง 17,000 บาท และรับกล้อง X-H2 ไป หรือถ้าคุณเห็นถึงประโยชน์ในการจ่ายเงินที่มากกว่าสำหรับกล้อง X-H2S ก็เป็นสิ่งที่ดีเช่นกัน