ในบทความนี้เราจะพาทุกท่านย้อนรอยไปกับกล้อง Kodak VR35 K12 ที่ได้มีการผลิตจาก Kodak ในปี 2529 เป็นกล้องฟิล์ม 35 มม. แบบเล็งแล้วถ่าย ซึ่งเป็นกล้องแบรนด์ Kodak ตัวแรกในรอบกว่า 17 ปี กลุ่มผลิตภัณฑ์นี้เรียกว่า VR35 และเป็นเครื่องที่ผลิตขึ้นเองในราคาถูกสำหรับผู้บริโภค โดยจำหน่ายให้กับครอบครัวโดยใช้วิธีถ่ายภาพสแน็ปช็อตและบันทึกความทรงจำ โดยที่ Kodak VR35 ขายกันเป็นจำนวนมากในช่วงเวลานั้น
โดยคุณยายของฉันซื้อกล้อง Kodak VR35 K12 ด้วยเงินที่ยายหามาเองอย่างยากลำบาก และก็ได้ใช้กล้องนี้เก็บภาพความทรงจำในช่วงเวลาสำคัญต่างๆ และมันสวยงามและเป็นความทรงจำที่ดีมาก แต่เมื่อดูจากยุคปัจจุบันนี้ที่มีกล้องแบรนด์ต่างๆ มากมายให้เราเลือกใช้และยังมีความแข็งแรงทางในด้านภาพถ่ายและโครงสร้าง จึงทำให้ Kodak ไม่ได้เป็นตัวเลือกต้นๆ สำหรับเราเท่าไหร่นัก
แต่หลังจากได้เห็นภาพถ่ายที่ได้จากกล้องนี้ของยาย เราก็พบว่าเราอาจจะต้องลองมันสักครั้งแล้วละ และเราก็ได้ใช้งานมัน เราพบว่ามันยังสามารถใช้งานได้ ทั้งการเปิด/ปิด แต่แฟลชมีการทำงานเป็นช่วงๆ และปุ่มชัตเตอร์ก็ติดบ้างไม่ติดบ้างเป็นครั้งคราว
สเปกเบื้องต้น
ชนิด: กล้อง compact infrared โฟกัสอัตโนมัติ 35มม. พร้อมโหลดฟิล์มอัตโนมัติ ลมอัตโนมัติ กรอกลับแบบอัตโนมัติ และระบบแฟลชในตัว
ขนาดภาพถ่าย: 24 x 36 มม.
เลนส์: 35 มม. f/2.8, aspheric , ชิ้นเลนส์กระจกทั้งหมด 4 ชิ้น
ช่องมองภาพ: กรอบสว่างพร้อมกรอบ AF, เครื่องหมาย parallax , สัญลักษณ์ยืนยันโฟกัส, คำเตือนการรับแสงน้อยเกินไป
ชัตเตอร์: ชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ที่ตั้งโปรแกรมไว้พร้อมระบบล็อกอัตโนมัติที่แรงดันไฟฟ้าต่ำ
เครื่องวัดค่าแสง: ระบบเปิดรับแสงอัตโนมัติเต็มรูปแบบ
ช่วง ISO: การตั้งค่าอัตโนมัติ: (DX) 100, 200, 400 และ 1000
โฟกัส: ระบบโฟกัสอัตโนมัติ Infrared พร้อมความสามารถในการโฟกัสล่วงหน้า
ช่วงโฟกัส: 3 ฟุต (1 ม.) ถึงระยะไม่จำกัด
ตัวจับเวลา: ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ 10 วินาทีพร้อมไฟ LED สีแดงกะพริบ และสามารถยกเลิกได้
อายุการใช้งานแบตเตอรี่: ชุดพลังงาน Ultralife lithium 9 โวลต์หนึ่งชุด และสามารถใช้แบตเตอรี่ alkaline ขนาด 9 โวลต์ในกรณีฉุกเฉินได้ แต่อายุการใช้งานของแบตเตอรี่จะลดลง
ขนาด: 141.5 x 73 x 50 มม.
น้ำหนัก: 340.19 กรัม
คุณสมบัติของกล้อง
กล้อง Kodak VR35 K12 ยังเป็นกล้อง compact ที่มีขนาดเล็กกะทัดรัดที่เหมาะสมต่อการพกพาออกไปใช้งานในที่ต่างๆได้อย่างสะดวก รวมไปจนถึงความน่าเชื่อถือของ Kodak และนี้คือคุณสมบัติหลักๆ ของกล้องที่น่าสนใจ
1. เลนส์ 38 มม. f/2.8 – ซึ่งจะมอบภาพที่คมชัดและมีความสมดุลในแสงที่ดี ทำให้เหมาะสำหรับการถ่ายทั้งในแวดวงภาพและแสงน้อย
2. ระบบโฟกัสแบบ auto-focus – ทำให้ง่ายต่อการใช้งานและสามารถได้ภาพที่มีความชัดเจนตามที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย
3. ระบบวัดแสงแบบ TTL (through-the-lens) metering – ทำให้ง่ายต่อการปรับแสงในแต่ละสถานการณ์และสามารถควบคุมได้ด้วยตนเองหรือให้กล้องปรับอัตโนมัติ
4. สามารถใช้ฟิล์มขนาด 35 มม. ได้ทั้งแบบมีไนโตรเจนและไม่มีไนโตรเจน เพื่อทำให้สะดวกต่อการเลือกใช้ฟิล์มในแต่ละสถานการณ์.
5. มีโหมดการถ่ายภาพต่างๆ เช่น โหมดแนวนอน โหมดโปรตรามาตรฐาน และโหมดโปรตราที่น้อยลง – ทำให้สามารถเลือกโหมดการถ่ายที่เหมาะสมกับแต่ละสถานการณ์ได้
6. มีโหมดการเปิดแฟลชที่สามารถปรับแต่งได้ เพื่อทำให้สามารถถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยหรือสลัวได้ดีขึ้น
ประสบการณ์ในการใช้งานกล้อง
(เครดิต: ifyoulikegoodideas / lomography.)
หลังจากที่เราได้รับกล้องนี้มาจากยาย และพบว่ามันใช้งานเริ่มมีการติดขัดแล้ว ทำให้เราไปหากล้องมือสองมาเพิ่มอีกตัว แต่เนื่องจากมันเริ่มเลิกผลิตไปแล้ว ทำให้หายากขึ้นไปอีกขั้น แต่แน่นอนมันทำให้รู้ว่าเรารักมันมาก เนื่องจากมันไม่ใช้แค่มรดกเท่านั้น มันเป็นคลังเก็บความทรงจำของเราในวัยเด็ก
ในการใช้งานเราพบว่าเลนส์มันมีความคมชัด และระบบโฟกัสอัตโนมัติก็ทำงานได้ดีอย่างน่าทึ่ง และมีความสม่ำเสมอมากกว่าการเล็งและการถ่ายภาพแบบใหม่ที่เราเคยใช้ ซึ่งแฟลชอัตโนมัติของมันทำให้เรามั่นใจว่าค่าแสงที่กำลังถ่ายอยู่นี้มีความเหมาะสมเพียงพอ แม้ว่าปกติเราจะไม่ค่อยได้ใช้แฟลชก็ตาม
นอกจากนี้กล้องยังมีโครงสร้างตัวกล้องที่ยอดเยี่ยม และ grip จับของกล้องก็มีความแข็งแรงที่ทำให้เราสามารถจับถือได้อย่างถนัดมือและถือง่าย การพลิกแฟลชอย่างรวดเร็วเพื่อเตรียมพร้อมถ่ายภาพ และความเรียบง่ายของกล้องช่วยขจัดอุปสรรคในการจับภาพช่วงเวลาต่างๆ ได้โดยไม่ขัดจังหวะการถ่ายภาพ และช่องมองภาพก็มีขนาดใหญ่เพียงพอและชัดเจน พร้อมสัญลักษณ์แสดงโฟกัสที่อ่านได้ชัดเจนและเส้นกรอบที่สวยงาม และที่สำคัญคือมันยังใช้งานแบตเตอรี่ทั่วไปที่หาซื้อได้ง่ายและมีราคาไม่แพง
แต่ในข้อดี ก็ยังมีข้อเสียอยู่เช่นกัน เนื่องจากความเรียบง่ายที่เป็นทั้งจุดแข็งและจุดอ่อนของกล้อง ทำให้เราไม่สามารถปรับ ISO ด้วยตนเองเพื่อชดเชยได้ และการขาดการควบคุมการสร้างสรรค์โดยทั่วไปจะทำให้ VR35 มีจุดบกพร่องสำหรับช่างภาพบางคน
และฟังก์ชันมอเตอร์อาจเป็นเรื่องน่ากังวลสำหรับใครก็ตามที่กังวลเกี่ยวกับอายุการใช้งานของกล้อง และเป็นไปได้ว่าเสียงดังที่เกิดขึ้นขณะโหลด เลื่อนไปข้างหน้า และกรอฟิล์มอาจเป็นปัญหาได้ นอกจากนี้กล้องยังมีขนาดใหญ่และอ้วนที่แม้ว่ามันจะสามารถใส่สายคล้องห้วยคอได้แต่ก็ไม่พอดีกับกระเป๋าอยู่ดี