รีวิวกล้อง Lomography Fisheye Baby 110

กล้อง Lomography Fisheye Baby 110 ให้การถ่ายภาพวงกลมมุมกว้างพิเศษบนฟิล์ม format และเป็นหนึ่งในกล้องที่น่ารักที่สุดสำหรับแฟน ๆ ของภาพแนว impressionistic

สเปกพื้นฐานของกล้อง 

ฟิล์ม Format: 110

ทางยาวโฟกัส: 10มม. Fisheye

รูรับแสงที่ใช้งานได้: f8

ความเร็วชัตเตอร์: 1/100 (N) , Bulb (B)

แฟลช: PC – Flash Plug

การตั้งค่า ISO ที่มีให้: ไม่มีการปรับตั้งค่า ISO

การเปิดรับแสงได้หลายครั้ง: ทำได้

การใช้งานกับขาตั้งกล้อง: ไม่ได้

การปล่อยสายเคเบิล: ไม่ได้

แบตเตอรี่: ไม่จะเป็นต้องใช้แบตเตอรี่

น้ำหนัก: 51.02 กรัม

ข้อดี

+ กล้องฟิล์มขนาดพกพาสุดแปลก

+ เลนส์โฟกัส fish-eye คงที่

+ การทำงานแบบไม่ใช้แบตเตอรี่

+ ซิงค์กับแฟลชนอกกล้อง

+ โหมดหลอดไฟสำหรับการเปิดรับแสงนาน

+ มีให้เลือกทั้งแบบ Bauhaus สีสันสดใสหรือสีดำโลหะแบบ monochromatic

ข้อเสีย

– ตัวเลือกฟิล์มที่จำกัดมากกว่า 35 มม. หรือ medium format

– ฟิล์ม negative ขนาดเล็กไม่สามารถเก็บรายละเอียดได้มากนัก

กล้อง Lomography Fisheye Baby 110 เป็นกล้องที่มีสีสันสดใสที่น่ารักที่สุดที่คุณจะสามารถหาซื้อได้ในวันนี้ และเป็นกล้องเล็งแล้วถ่ายขนาดเล็กที่สามารถวางอยู่บนฝ่ามือของคุณได้ และช่องมองภาพ fisheye แบบกระเปาะทำให้ได้ภาพ silhouetteที่โดดเด่น แม้คุณภาพของภาพจากฟิล์ม format110 นั้นจะไม่ได้มีอะไรมากมาย แต่คุณอาจมองข้ามมันไปได้เนื่องจากเสน่ห์ของกล้องตัวเล็กที่น่าสนใจ

สีสันน่ารักหรือสีขาวดำ (Monochrome) 

Lomography ขาย Fisheye Baby ในสองรุ่น รวมถึง Bauhaus สีสันสดใสที่เราได้รับมารีวิว เช่นเดียวกับรุ่น Metal Black สีดำและสีเงิน ตัวกล้องทั้งสองมีขนาดและรูปร่างเหมือนกัน แต่รุ่น Bauhaus ใช้พลาสติกเป็นสีหลัก ในขณะที่ Metal Black เป็นวัสดุผสมระหว่างโลหะและพลาสติก

ดังที่ได้กล่าวไว้ กล้องมีขนาดเล็กพอที่จะวางบนฝ่ามือของคุณได้ ซึ่งวัดได้ 2.8 คูณ 2.5 คูณ 2.0 นิ้ว (HWD) และมีน้ำหนักประมาณ 51.02 กรัมโดยไม่ต้องใส่ตลับฟิล์ม และอาจจะหนักประมาณสองเท่าเมื่อใส่ฟิล์มเข้าไป

กล้องใช้ตลับฟิล์ม 110 ตลับ ซึ่งเป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคหรือผู้ที่ใช้งานกล้องในยุค 70 และ 80 แต่ไม่ได้รับความนิยม ซึ่งปัจจุบันมีเพียง Lomography เท่านั้นที่สร้างฟิล์ม format 16 มม. ซึ่งเราได้รับฟิล์ม negative สีสองสามม้วนมาลอง แต่วัสดุ LomoChrome, redscale และขาวดำก็มีจำหน่ายเช่นกัน

คลิปตลับฟิล์มเข้ากับด้านหลังที่ถอดออกได้ ตัวยึดฟิล์มพลาสติกสีดำแทนที่ด้านหลังสีเหลืองของ Bauhaus Edition และมีล้อระดับสูงเพื่อเลื่อนไปยังเฟรมถัดไปเมื่อคุณพร้อม และที่สำคัญคือ Fisheye Baby รองรับการถ่ายภาพซ้อน ดังนั้นสิ่งสำคัญคืออย่าลืมเลื่อนฟิล์มระหว่างช็อต

การจัดการและการควบคุม

สำหรับการควบคุมของกล้องนี้ ไม่ได้มีอะไรที่มากนัก ตัวกล้องมีช่องมองภาพแบบ optical รูปทรงกลมที่โดดเด่นที่ด้านบนและก่อให้เกิดภาพ silhouette ที่ไม่เหมือนใคร และมีปุ่มชัตเตอร์อยู่ด้านบนตัวกล้อง และมีสวิตช์สลับเพื่อเปลี่ยนระหว่างเวลาเปิดรับแสงมาตรฐาน 1/100 วินาทีกับโหมดหลอดไฟเมื่อเปิดรับแสงนาน นอกจากนี้ยังมีพอร์ต PC Sync สำหรับเชื่อมต่อแฟลชภายนอก และFisheye Baby 110 เป็นระบบกลไกล้วน ๆ และทำงานโดยไม่ต้องใช้แบตเตอรี่

คุณภาพของภาพและฟิล์ม Lomography Fisheye Baby 

(เครดิต: Jim Fisher)

กล้อง Fisheye Baby นั้นมีรูปลักษณ์ขนาดเล็กที่น่ารักมาก แต่คุณภาพของภาพกลับไม่ได้น่าทึ่งมากนัก ด้วยฟิล์ม negatives ขนาดเล็กและเลนส์พลาสติกกว้างพิเศษไม่ได้ให้รายละเอียดมากนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณเคยชินกับฟิล์ม 35 มม. หรือกล้องดิจิตอล และเมื่อคุณมองคุณอาจจะพบกับเสน่ห์บางอย่างของมัน แต่เมื่อถ่ายภาพในที่ย้อนแสงมากอาจทำให้ภาพสูญเสียคอนทราสต์เมื่อถ่ายได้ แต่ในทางกลับกัน มันกลับใช้ได้ง่ายและดูดีในแสงแฟลร์

เลนส์ fisheye ทรงกลม f/8 มองเห็นได้เกือบทุกอย่าง มุมทแยงมุมประมาณ 170 องศา โดยมีความโค้งบิดเบี้ยวที่โดดเด่นด้วย fisheye และการถ่ายภาพยนตร์ส่วนใหญ่มีความเร็วค่อนข้างต่ำ ดังนั้นคุณจะต้องใช้แฟลชหรือทดลองกับการเปิดรูรับแสงในที่แสงสลัว ซึ่งเรามีฟิล์ม native สี Lomo Tiger 200 มาลองและสังเกตเห็นผลลัพธ์ที่ค่อนข้างหยาบ เนื่องจากสีที่ไม่ชัด และเกิดแสงแฟลร์ได้ง่าย

และในการที่จะได้รับภาพ ซึ่งอาจจะต้องนำไปสแกนที่ร้านและใช้เวลาสักหน่อยถึงจะได้ภาพฟิล์มออกมา ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยุ่งยากสำหรับท่านที่ต้องการภาพในรูปแบบที่ง่ายกว่านี้ก็อาจจะมองข้ามกล้องนี้ได้ โดยคุณอาจจะเปลี่ยนไปเลือกกล้องแบบดิจิทัลและเลนส์ macro แทน

สิ่งที่มากกว่าความแปลกใหม่

เท่าที่กล้องมีในปัจจุบัน มีไม่มากนักที่มีเสน่ห์แปลกใหม่แบบเดียวกับ Fisheye Baby 110 ซึ่งกล้องนี้ค่อนข้างเหมาะสมกับช่างภาพที่กำลังมองหากล้องหรืออุปกรณ์ตกแต่งสตูดิโอกล่องตัวนี้เหมาะมาก และรุ่น Bauhaus Edition สีสันสดใสมีรูปลักษณ์ป๊อปอาร์ตของ Roy Lichtenstein พร้อมสีหลักที่โดดเด่น แต่อีกรุ่นคือ Metal Black เข้ากับการตกแต่งแนว industrial

แน่นอนว่าเมื่อเปรียบเทียบกล้องรุ่นนี้กับกล้องฟิล์มรุ่นอื่นที่ใช้ 35 มม. มันอาจจะไม่ได้สู้ได้มากนัก แต่เรากลับพบว่า บางทีเราก็อยากได้ภาพถ่ายแนวนี้มากกว่า แม้ผลลัพธ์ของภาพจะไม่ได้เป็นที่น่าประทับใจมากนัก แต่สุดท้ายแล้วก็เป็นเรื่องความชอบส่วนตัวล้วนๆ ซึ่งทางเราค่อนข้างชอบ

และเราคิดว่าหากใครที่กำลังมองหากล้องที่จะถ่ายภาพแนวนี้อยู่หรืออาจจะต้องการพกพามันเพื่อจะออกไปถ่ายภาพเล่นกับเพื่อน เราขอแนะนำว่ากล้องนี้เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างมาก เพราะมันจะทำให้คุณได้รับประสบการณ์การถ่ายภาพที่ไม่เหมือนใครอย่างแน่นอน