กล้อง Canon PowerShot G3 X เป็นตัวอย่างแนวคิดที่ยอดเยี่ยมสำหรับกล้องถ่ายภาพ ที่ประกอบด้วยเลนส์ซูม 25-600 มม. f/2.8-5.6 ที่สามารถครอบคลุมวัตถุถ่ายภาพได้หลากหลายมาก ตั้งแต่การถ่ายภูมิประเทศที่กว้างไกลไปจนถึงสัตว์ป่าที่มีความรวดเร็ว และเซนเซอร์ภาพถ่าย 1 นิ้ว 20MP ที่ให้ภาพถ่ายขนาดเล็กที่สุดที่พบได้ใน super zoom ขนาดพกพาที่สะดวกต่อการกดถ่าย ISO ในสภาวะที่มืดสลัว
แต่ก็ยังมีบางส่วนที่เป็นปัญหาที่ทำให้มันไม่ได้เป็นกล้องสำหรับการท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบขนาดนั้นได้ ดังนั้นในรีวิวนี้เราจึงได้ทำการทดสอบการใช้งานถึงข้อดี, ข้อเสีย และข้อมูลต่างๆ เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจเลือกซื้อกล้องให้ง่ายขึ้นได้ดังด้านล่างนี้
คุณสมบัติเบื้องต้น
+ 20.1MP และเซนเซอร์ BSI CMOS ขนาด 1 นิ้ว
+ เทียบเท่าเลนส์ 24-600มม. f/2.8-5.6
+ ISO 125-12,800
+ หน้าจอสัมผัสแบบ tilting 1.62m. dot.
+ โครงสร้างมีคุณสมบัติกันฝุ่นและละอองน้ำ
+ การถ่ายภาพต่อเนื่อง 5.9fps
ข้อดี
+ ช่วงซูมที่ยาว
+ เซนเซอร์ภาพถ่ายขนาด 1 นิ้ว
+ หน้าจอแสดงผลสัมผัสแบบ tilting
+ มีคุณสมบัติช่วยจัดเฟรม
+ Hot shoe รองรับ add-on EVF และ Canon Speedlites
+ รองรับการเชื่อมต่อไมโครโฟนและหูฟัง
+ ฟิลเตอร์ ND มีให้ภายในกล้อง
+ มีการเคลือบซีลเพื่อปิ้งกันจากฝุ่นและความชื้น
+ มีการเชื่อมต่อ Wi-Fi
ข้อเสีย
– โฟกัสค่อนข้างช้า
– อัตราการถ่ายภาพต่อเนื่องช้าเมื่อใช้ในการถ่าย RAW
– ใช้เวลาสักครู่ในการเปิดใช้งานกล้อง
– EVF เป็นอุปกรณ์เสริมที่ราคาค่อนข้างแพง
โครงสร้างและการจัดการ
ด้วยตัวกล้องที่ทำจาก magnesium-alloy ที่กันฝุ่นและละอองน้ำ ที่ให้กล้อง G3 X ให้ความรู้ที่แข็งแกร่งและน้ำหนัก 733ก. ก็ไม่ได้หนักจนเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากระยะของเลนส์ที่ค่อนข้างยาว และเมื่อดูเปรียบเทียบกับกล้องที่มีช่วงซูมที่สั้นกว่า จะพบว่ากล้องนี้มีขนาดที่เล็กกว่าด้วยเซนเซอร์ขนาด 1 นิ้ว ที่ 123.3×76.5×105.3 มม. แม้ว่านี่จะลดทอน EVF ลงอย่างมากก็ตาม
และมีด้ามจับที่หุ้มด้วยยางที่มีพื้นผิวหนาซึ่งให้การยึดเกาะที่ดี ซึ่งเมื่อดูจะพบว่าเขาค่อนข้างให้ความสำคัญในด้านนี้และทำได้อย่างดีเยี่ยมทั้งความหน้าของ grip และตะขอสำหรับนิ้วหัวแม่มือของเราที่มีไว้เพื่อการจับถือตัวกล้องได้อย่างมั่นคงและปลอดภัย ฉะนั้นเมื่อดูที่การออกแบบของกล้องนี้หมายความว่ามือซ้ายของของคุณจะรองรับกระบอกเลนส์โดยธรรมชาติ
กล้อง G3 X มีชุดควบคุมที่เหมาะสม โดยส่วนใหญ่อยู่ในตำแหน่งที่ควบคุมด้วยมือขวาของคุณ ไม่ว่าจะเป็นแป้นเปิด/ปิด, การใช้งานโหมดภาพยนตร์ รวมไปถึงแป้นหมุนปรับโหมดรับแสงด้วย และนอกจากนี้ยังมีคันโยกซูมความเร็วสองระดับรอบๆ ปุ่มชัตเตอร์ช่วยให้จัดองค์ประกอบภาพได้อย่างแม่นยำพอสมควร
หน้าจอแสดงผลและช่องมองภาพ
ด้านหลังของกล้อง G3 X โดดเด่นด้วยหน้าจอขนาด 3.2 นิ้ว ซึ่งมีความละเอียดสูงถึง 1.62 ล้านจุด หน้าจอมีความสว่างและมีรายละเอียด แต่ก็ยังให้สีที่สดและชัดเจน
หน้าจอแบบเอียงทั้งลง 45° และขึ้น 180° เพื่อหันหน้าการใช้งานเซลฟี่ได้อย่างเต็มที่ แต่ข้อเสียของกลไกที่ซับซ้อนนี้ส่งผลให้มีกรอบขนาดใหญ่เกิดขึ้นรอบหน้า LCD ซึ่งโดยส่วนตัวเราอาจจะอยากมองเห็นหน้าจอที่แสดงผลได้อย่างเต็มที่ ซึ่งจะให้การทำงานได้ดีกว่าในการถ่ายภาพ portrait
กล้องนี้ไม่มีช่องมองภาพในตัว แต่ก็ยังถือว่าดี เนื่องจากกล้อง G3 X ให้การรองรับช่องมองภาพ EVF-DC1 ของ Canon ซึ่งใช้กับ G1 X II และ EOS M3 ด้วยเช่นกัน ซึ่งหมายความว่าก็ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในส่วนนี้ด้วย ซึ่งด้านบนของ hot shoe ที่อยู่บนตัวกล้องยังมีเซนเซอร์ตาสำหรับเปลี่ยนจากจอ LCD โดยอัตโนมัติอยู่ด้วย
ผลลัพธ์คุณภาพของภาพถ่าย
โดยทั่วไปกล้อง Canon PowerShot G3 X ให้คุณภาพของภาพที่ใกล้เคียงกับกล้อง compact ระดับพรีเมียมรุ่นอื่นๆ ที่ใช้เซนเซอร์ BSI CMOS ความละเอียด 20.2 ล้านพิกเซลเท่ากัน ดังนั้นมันจึงเหนือกว่ากล้องsuperzoom ที่มีเซนเซอร์ขนาดเล็ก 1/2.3 นิ้วอย่างเช่น PowerShot SX60 HS อย่างมาก โดยมันสามารถบันทึกรายละเอียดได้มากที่การตั้งค่า ISO ต่ำ ในขณะที่มีจุดรบกวนต่ำไปจนถึง ISO 800 เช่นกัน
ด้วยการรองรับซอฟต์แวร์ที่จำกัดเท่านั้น (เฉพาะ Digital Photo Pro ของ Canon เท่านั้นที่รองรับกล้อง ณ เวลาที่เขียน) เราจึงไม่สามารถดูคุณภาพของภาพไฟล์ดิบได้อย่างที่เราต้องการ และใช้เวลาดูภาพไฟล์ JPEG ของ Canon ก็นานกว่าที่คิด
ฉะนั้นเมื่อดูจากภาพถ่ายที่ได้แล้วจะพบว่าภาพมันค่อนข้างสว่างและชัดเจน ฉะนั้นเราจึงจะสังเกตเห็นว่ามีช่างภาพหลายคนที่ชอบลดทอนส่วนเกินลงเล็กน้อย แต่ขณะเดียวกัน Canon ก็ไม่อนุญาตให้คุณแก้ไขการประมวลผล JPEG หากคุณต้องการบันทึกไฟล์ดิบด้วย
อายุการใช้งานแบตเตอรี่
กล้อง Canon PowerShot G3X ใช้แบตเตอรี่ lithium-ion แบบชาร์จไฟได้ NB-10L และมาพร้อมกับเครื่องชาร์จเฉพาะของมัน โดยอายุการใช้งานแบตเตอรี่จาก CIPA มีการประเมินที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในระดับเดียวกันที่ 300 ภาพต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง แม้ว่าจะมีโหมด Eco ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานกล้องให้ยาวนานขึ้นถึง 410 ภาพโดยการหรี่แสงแล้วปิดจอ LCD ซึ่งจะเร็วกว่าในโหมดถ่ายภาพปกติ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เราแนะนำให้คุณซื้อแบตสำรองอีกตัว หรือพกสายชาร์จไว้เผื่อสำหรับวันที่คุณต้องการใช้งานมันเป็นเวลานานไม่ว่าจะสำหรับการท่องเที่ยวหรือการเดินทาง